วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2550

chin

"ชิน - ชินวุฒ อินทรคูสิน" หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส วัย 18 ปี ที่ร่วมโครงการจี-จูเนียร์มาตั้งแต่อายุ 12 ปี และได้มีงานเพลงอัลบั้มแรกร่วมกับเพื่อนอีก 2 คนในโครงการ โดยใช้ชื่อว่า "บิ๊กทรี" ต่อมายังได้มีผลงานร่วมกับเพื่อนๆ "จี-เจอาร์" อีกครั้งในอัลบั้ม "10 Club" จนกระทั่งมาถึงวันนี้ ชีวิตที่ผูกพันด้วยเสียงเพลง ทำให้ ชิน ได้มีอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของตัวเองซะทีในชื่อ "Chin Up" (ชิน อัพ) ซึ่งเมื่อ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ชิน ก็ได้ชักชวนพี่ๆ สื่อมวลชนไปร่วมพูดคุย เพื่อบอกเล่าถึงตัวตนของเขาที่ทำให้เกิดผลงานชุดนี้
อัลบั้มเดี่ยวชุดแรกเป็นยังไงบ้าง
"อัลบั้มนี้ก็พอใจพอสมควรเลยครับ เพราะว่าเราก็ตั้งใจทำงานกับมันมาเต็มที่ แล้วก็ได้ทีมทำเพลงที่ดีด้วย รู้สึกโชคดีด้วย เพราะตอนแรกเราก็กังวลว่าจะได้ทีมเพลงทีมไหน จะเข้ากับเรารึเปล่า แต่พอได้ทำก็รู้สึกว่าเค้าเข้าใจเราจริงๆ เข้าใจในสิ่งที่เราต้องการ แล้วก็เข้าใจในสิ่งที่ดีสำหรับตัวผม ได้เป็นตัวของตัวเองมากที่สุดน่ะครับ เค้าก็เข้าใจผม เพราะเป็นทีมโปรดิวเซอร์เดียวกับ จี-เจอาร์ น่ะครับ เค้าก็รู้จักชิน เพราะมีพี่ที่ทำกับผมมาต้องแต่ บิ๊กทรี เลย ตั้งแต่อัลบั้มแรก 4-5 ปีมาแล้ว ผมก็เล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง เค้าก็เอามาแต่งเป็นเพลง ก็รู้สึกว่าลงตัว ทั้งเพลง ทั้งทุกอย่างเลยลงตัว"
ทำไมถึงใช้ชื่ออัลบั้มว่า Chin Up
"เป็นชื่อที่มี 2 มุม อย่างถ้าหากพูดว่า Keep It Chin Up ก็เป็นเหมือนการให้กำลังใจ แล้วเพลงผมก็เป็นเพลงเหมือนการให้กำลังใจเหมือนกัน แล้วอีกอันคือ Chin Up คือ ชิน ขึ้น อะไรแบบนี้ คือเราเดินขึ้นมาอีกก้าวหนึ่งแล้ว ซึ่งจะไม่ใช่ก้าวสุดท้ายแน่นอน จากที่เราเคยทำกลุ่ม ทำอะไรมา คราวนี้ได้ทำเดี่ยวเหมือนกับเราได้อัพขึ้นมา ความรู้สึกผมคือการเดินขึ้นมาอีกก้าวหนึ่ง"
เริ่มทำอัลบั้มนี้มานานรึยัง
"นานแล้วครับก่อน จี-เจอาร์ อีก จริงๆ โปรเจกต์นี้เริ่มตั้งแต่ก่อน จี-เจอาร์ แล้ว เค้าจับเรามารวมกับเพื่อนก่อน คือเพลง คนไม่น่ารัก ที่อยู่ในอัลบั้ม จี-เจอาร์ ตอนแรกจะเป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้มนี้ของผม แต่ว่าพอไปทำ จี-เจอาร์ ก่อน เค้าก็เลยเอาไปใส่ตรงนั้น พอเสร็จก็มาเริ่มทำอีกทีตอนพฤศจิครับมาเริ่มอัดเสียงเพลงแรก เพลง ปากไม่ตรงกับใจ ครับ"
ทำไมอัลบั้มนี้เป็นเพลงแนวป๊อปอาร์แอนด์บี
"เพราะผมเป็นคนชอบเพลงอาร์แอนด์บีอยู่แล้ว ด้วยการเต้นด้วย เพราะว่าเป็นคนชอบเต้นอยู่แล้ว แล้วรู้สึกว่าฟังเพลงอาร์แอนด์บีมากที่สุดเป็นส่วนตัว อีกอย่างรู้สึกว่าการร้องแนวนี้ เราจะร้องได้ดีที่สุด คือเบสเป็นป๊อปอยู่แล้ว ดนตรี เนื้อร้อง อะไรอย่างนี้ แต่ว่าสไตล์การร้องหรือว่าการเต้นจะทำให้ดูเป็นอาร์แอนด์บีแล้วก็ไม่ซ้ำน่ะครับ"
ความแตกต่างกับอัลบั้มของ จี-เจอาร์
"ดนตรี การร้อง คอนเซ็ปต์อะไรทุกอย่างจะดูโตขึ้นครับ แต่ว่าตอน จี-เจอาร์ จะยังดูเด็กๆ อยู่น่ะครับ เพลงยังไม่โต แต่นี่จะมองความรักในอีกมุมองหนึ่งเลย อะไรแบบนี้"
การแต่งกายในอัลบั้มนี้
"เลือกเองครับ ผมกับพี่สไตลิสต์จะช่วยกันดูช่วยกันเลือก ผมก็เอาเรฟเฟอเรนซ์มา คือเรฟเฟอเรนซ์ผมน่ะ อัชเชอร์ (Usher) ครับ เพราะโดยส่วนตัวชอบ อัชเชอร์ มากๆ เป็นนักร้องในดวงใจผมเลย เป็นไอดอล คือไม่ได้ตามแบบเค้าหมดนะฮะ คือ ดึงตรงนี้มามั่ง ตรงนั้นมามั่ง อะไรแบบนี้ครับ คือดูจากสไตล์การแต่งตัว สไตล์การร้อง สไตล์การเต้นแบบนี้ครับ เอามาปรับแต่งให้เป็นตัวผม ส่วนทรงผมทรงนี้นี่ก็เป็นคนออกแบบเองด้วย"
สัดส่วนเพลงช้าและเร็วในอัลบั้มนี้
"มีช้า 6 เพลงฮะ แล้วมีเร็ว 5 เพลง คือจะมีเพลงมีเดียมด้วยที่มูฟได้และเป็นโทนนุ่มๆ ชื่อเพลง ขาดรักเธอ พูดถึงเรื่องเศร้า ประมาณว่าเหมือนคนไข้หนักเพราะว่าขาดรักเธออะไรยังงี้ เพลงเร็วที่จะโปรโมตชื่อ บอดี้ แลงเกวจ (Body Language) ฮะ ประมาณว่าสื่อสารด้วยร่างกาย จะมีโชว์บีตบ็อกซ์ด้วย แล้วก็การเต้นโชคดีที่ได้ครูจากญี่ปุ่นมาพอดีด้วย ครูคนนี้จะเก่งมาก แล้วก็สไตล์เค้าแรงด้วยแบบที่ไม่มีในประเทศไทย เค้ามาช่วยออกแบบท่าเต้นให้เพลง ปากไม่ตรงกับใจ และเพลง บอดี้แลงเกวจ ครับ ซึ่งดูแรงดูไม่เหมือนใครเลยครับ ท่าแรงมาก สนุก เล่นกับคนดูได้"
เพลงไหนรู้สึกว่าตรงกับตัวเองมากที่สุด
"ทุกเพลงเลยครับ เพราะทุกเพลงมาจากตัวผมหมด ผมเล่าให้โปรดิวเซอร์ฟัง ให้ทีมเพลง ให้คนแต่งเนื้อฟัง คือผมบอกว่าผมอยากได้ยังงี้ๆๆ ดนตรียังไงๆ คือผมก็มีส่วนร่วมเยอะพอสมควรเลยฮะ ถ้าเนื้อร้องตรงกับผมมากที่สุดคงเป็นเพลง ปากไม่ตรงกับใจ เพราะผมเหมือนจะเป็นคนที่พูดตลอดเวลา แต่พอมาถึงเรื่องความรักจะไม่ค่อยแสดงออกมากเท่าไร จะไม่ค่อยพูดอะไรแบบนี้"
แล้วเพลงไหนชอบมากเป็นพิเศษ
"ชอบหมด แต่ส่วนตัวจะ ปากไม่ตรงกับใจ ครับ ฟังครั้งแรกจะรู้สึกว่าเพลงนี้คูล ใช้แสดงตอนขึ้นโชว์ได้ แต่ตอนหลังๆ จะมีอีก 2-3 เพลง แล้วมีเพลงหนึ่งชื่อเพลง เติมไม่เคยเต็ม เพลงนี้ พี่นิ่ม สีฟ้า เป็นคนเขียนเนื้อให้ เนื้อเพลงบอกว่าถึงแม้เราจะมีเพื่อนมากมาย ทำนู่นทำนี่ แต่เหมือนจะมีสิ่งๆ หนึ่งที่ยังขาดหายไป คือยังไงก็เหมือนเติมไม่เคยเต็ม แต่พอมาเจอคนๆ นี้ก็เหมือนเราได้เต็มอีกครั้ง เป็นเพลงที่มีแบ็กกราวด์เปียโน ฟังแล้วเคลิ้มเลยครับ ฟังแล้วชิล นั่งฟังสบายๆ ฟังก่อนนอนได้ เพราะผมนี่ฟังก่อนนอนเลย ในวีซีดีก็มีพี่ ณัฐ (ศรัณย์ ลดาวรรษ์) จี-เจอาร์ มาเล่นให้ ออกแนวโซลอาร์แอนด์บีด้วย เลยชอบครับ"
ตั้งเป้าหมายชีวิตไว้ยังไงบ้าง
"อยากทำด้านนี้ไปตลอดเลยครับ ตอนนี้ก็ฝึกทำเพลงอยู่ ก็มีโปรดิวเซอร์ผมที่ช่วยฝึกด้วย คือเรามาทางนี้แล้ว ผมก็อยากเอาให้สุดๆ ไปเลย สักวันหนึ่งที่เราทำด้านหน้ามานาน เราก็ต้องอยากไปทำเบื้องหลังดู ก็เลยเริ่มฝึก รักทางด้านนี้มาก เรื่องเกี่ยวกับดนตรี การร้อง การเต้น หรือการแสดง ชอบมากๆ ครับ เป็นคนชอบการแสดงออกอยู่แล้ว"
แล้วเพื่อนๆ ใน จี-จูเนียร์ ว่าไงบ้าง
"เค้าให้การสนับสนุนดีมากครับ เค้าให้กำลังใจ ไม่ทิ้งเพื่อน รู้สึกว่าเรายังอยู่กับเพื่อน ยังไงเราก็ยังอยู่ตรงนี้ ยังอยู่ในแกรมมี่ ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว ว่างๆ ก็ไปกินข้าวกัน ไปเที่ยว ไปดูหนังกัน เพื่อนก็คือเพื่อนน่ะครับ งานก็คืองาน แล้วเค้าก็มาให้กำลังใจและสนับสนุกกันมากๆ มีมาช่วยในเอ็มวีด้วย ทั้งเพรพพี จี และ จี-เจอาร์ ด้วย จะมีพี่ณัฐ มี แฮปปี้ (ภาคย์ รัตนฐิตินันต์) มะเดี่ยว (อัคกร สุขภุมรินทร์) กาย (กาย เอลลิส) ส่วน เพรพพี จี จะเยอะเกือบหมดทุกคน มี เกรท (ณัฏฐนันท์ เกียรติรดาฐนิต) มาเล่นเอ็มวีเป็นนางเอกให้ สวยมากครับ"
ฝากอัลบั้มกับแฟนๆ หน่อย
"ขอฝากอัลบั้ม Chin Up ด้วยนะครับ ของ ชิน นะครับ เพราะว่าเป็นความฝันเลยทีเดียว ตั้งแต่ก่อนเข้าวงการอีก ที่จะได้ออกอัลบั้ม อยากจะออกอัลบั้มเดี่ยว อยากจะโชว์ศักยภาพของตัวเอง มีอะไรโชว์ให้หมด แล้วผมก็มีโอกาสนี้แล้ว ผมก็ทำเต็มที่ ทำถึงที่สุด ตั้งใจกับมันสุดๆ ผลงานนี้ผมพอใจมากๆ อยากให้ทุกคนลองฟัง อยากให้ทุกคนลองพิจารณาดู ชอบไม่ชอบยังไงบอกกันได้ครับ"
อัลบั้ม Chin Up ก็พร้อมมาขยับจังหวะ เขย่าอารมณ์คนฟัง ด้วยท่าเต้นและการร้องที่หนุ่ม ชิน เตรียมมาเพื่อแฟนๆ โดยเฉพาะ หามาฟังกันได้ตั้งแต่ 29 พฤษภาคม เป็นต้นไปทุกแผงเทปภาพข่าว






























ข่าววันที่ 18 พฤษภาคม 2550
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวกับแวดวงเพลงข่าวเพลงอื่นๆ ในช่วงนั้น
เซลส์ สำลักความขาว แป้ง อรจิรา จนหามส่งโรงพยาบาล (18 พฤษภาคม 2550)
สองสาว โฟร์-มด เปิดใจพูดคุยถึงอัลบั้มใหม่สุดจี๊ด Wooo! (18 พฤษภาคม 2550)
สัมภาษณ์ แบล็คเฮด จากส่วนลึกของหัวใจกับอัลบั้ม Deep (18 พฤษภาคม 2550)
คริสติน่า อากีล่าร์ เปิดพื้นที่โลกส่วนตัวใส่ชุดใหม่ ซี สเปซ (15 พฤษภาคม 2550)
แบชเชอร์ ให้ท่า สร้างความคึกคัก เปิดอัลบั้มเพลง 3 มิติ (15 พฤษภาคม 2550)

ป้ายกำกับ:

เฟอรารี่

หลังเปิดตัวและทำตลาดนานเกือบ 10 ปีถึงเวลาแล้วที่สายพันธุ์สปอร์ตจีทีรุ่นใหญ่เครื่องยนต์วางด้านหน้าอย่าง 550 มาราเนลโล (ก่อนปรับโฉมเปลี่ยนชื่อมาเป็น 575เอ็มในปี 2002) จะถูกปลดระวางและมีตัวแทนเข้ามาสานต่อความสำเร็จในตลาดกลุ่มนี้ โดยในเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2006 ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เฟอร์รารี่เผยโฉมสปอร์ตรุ่นใหญ่ 599จีทีบี ที่สดใหม่ทั้งรูปลักษณ์และพกความแรงอันจัดจ้านด้วยการสวมหัวใจของซูเปอร์คาร์ เฟอร์รารี่ เอ็นโซ่ 599จีทีบีเป็นสปอร์ตคูเป้ 2 ที่นั่งเครื่องยนต์วางด้านหน้าและขับเคลื่อนล้อหลังที่ถูกพัฒนาขึ้นมาทำตลาดแทนที่รุ่น 550 มาราเนลโล ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1996 และ 10 ปีที่อยู่ในตลาดทั้ง 550 มาราเนลโล และ 575เอ็ม ซึ่งเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ มียอดจำหน่ายทั่วโลก 5,700 คัน อาจจะดูซ้ำซ้อนกับ 612 ซึ่งเป็นสปอร์ตเครื่องยนต์วางด้านหน้าและขับเคลื่อนล้อหลังเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วทั้ง 2 รุ่นจับลูกค้าคนละกลุ่มอย่างชัดเจน โดย 599จีทีบี เป็นคูเป้ 2 ที่นั่งที่เน้นความปราดเปรียวและสมรรถนะอันจัดจ้าน โดยที่ 612 เป็นสปอร์ตแบบ 4 ที่นั่งสำหรับเอาใจลูกค้าที่อยากขับรถสปอร์ตแต่ใจไม่ถึง ยังห่วงว่าถ้ามากัน 4 คนอีก 2 คนจะมายังไง สำหรับชื่อรุ่น 599 คือ จำนวนซีซีของครื่องยนต์ ส่วนรหัสจีทีบีเคยถูกนำมาใช้กับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่หลายรุ่น เช่น 2
BMW 501 : นกอินทรีทรงเสน่ห์
Last update:2006-02-02 Source :Blog

บีเอ็มดับเบิลยู คือรถเยอรมันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ทำตลาด รถยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยูทุกรุ่นได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน อย่างเช่นรถบีเอ็มดับเบิลยู 501 ปี 1955 ของคุณบุญชัย หล่อยืนยง หนึ่งในสามชิกของชมรมรถโบราณ ซึ่งเหตุผลการตัดสินใจซื้อรถที่มีอายุอานามกว่า 30 ปีมานั้น เจ้าตัวบอกว่าเป็นเพราะหลงเสน่ห์ประกอบกับความมีลูกบ้าอยู่ในตัว ทำให้เมื่อเห็นตัวรถจึงได้ตัดสินใจซื้อมาในทันที แต่อย่างไรก็ตามหนทางในการจะเป็นเจ้าของรถคันนี้ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เมื่อทางเจ้าของเดิมใช้เวลาในการตัดสินใจว่าจะขายต่อดีหรือไม่เป็นเวลานาน

“พอดีมีเพื่อนที่รู้จักมาแนะนำว่ามีรถบีเอ็มดับเบิลยูเก่าๆอยู่คันหนึ่ง ซึ่งพอเราได้เห็นก็ตัดสินใจที่จะซื้อทันที ประมาณว่ารักแรกพบเลยก็ได้ โดยเสน่ห์ของตัวรถที่ดึงดูดให้เราตัดสินใจซื้อก็เพราะว่ารูปทรงของตัวรถที่เป็นเอกลักษณ์ ในส่วนตัวผมมองว่ารถมันเหมือนนกอินทรี ซึ่งดูสง่างามมาก และเมื่อมาศึกษาดูข้อมูลตัวรถก็พบว่าเป็นรถไลน์แรกๆที่ผลิตขึ้นมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ยิ่งทำให้อยากสะสมและเป็นเจ้าของ “ หลังจากที่ได้มาครอบครองคุณบุญชัยก็เริ่มแปลงโฉมให้กับเจ้านกอินทรีคันนี้โดยได้ร่วมกับช่างและเพื่อนสนิท ซึ่งในกระบวนการแต่งหล่อให้กับรถคันนี้ค่อนข้างจะใช้เวลานาน เนื่องจากชิ้นส่วนและอะไหล่บางชิ้นหาได้ยากมาก เพราะรถค่อนข้างจะมีอายุที่นาน แต่ในส่วนอื่นๆที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็คือ สีขาวของตัวรถที่โดดเด่นดึงดูดตา รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆที่ติดมากับตัวรถก็เน้นของเดิมทุกอย่าง สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู 501 ปี 1955 มีขุมพลังของเครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซี . จำนวนกระบอกสูบ 6 สูบ พวงมาลัยซ้ายเนื่องจากว่าเป็นรถนำเข้าในขณะนั้น นอกจากนั้นแล้วยังมีจุดที่น่าสนใจของรถก็คือ ช่วงล่างแบบไฮโดรลิก ที่ถือว่าเป็นของใหม่อย่างมากในยุคสมัยนั้น ทั้งหมดนี้จึงเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้เจ้าของประทับใจในตัวรถคันนี้อย่างมาก

นอกเหนือจากรถคลาสสิคอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู 501 แล้วคุณบุญชัย ยังมีรถคลาสสิคในความครอบครองอีกหลายคัน แต่คันที่ถือเป็นคันโปรดซึ่งทางเจ้าของรักมากที่สุดก็คือ แลนด์เชสเตอร์ ปี 1953 ซึ่งหาได้ยากมากในบ้านเรา นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีสแตนดาร์ด ปี 1954 อีกคัน คุณบุญชัย ก็ได้ฝากถึงผู้ที่อยากมีรถคลาสสิคมาครอบครองว่าควรเริ่มเล่นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยการเล่นรถในแต่ละครั้งนั้นก็ควรดูกำลังทรัพย์ด้วยว่ามีพร้อมแค่ไหน หากเพิ่งเริ่มก็ควรเป็นรถที่หาง่ายราคาไม่แพงก่อน จะได้ศึกษาเรื่องอะไหล่ไปในตัวด้วย แต่ถ้าจะให้สนุกก็ต้องเป็นรถที่ยังไม่ได้แปลงโฉม เพราะจะได้ฝึกความอดทนในการซ่อมแซมให้กลับมาสวยงามอีกครั้ง "ความภูมิใจของคนที่สะสมรถโบราณไม่ได้อยู่ที่ราคาของมัน แต่อยู่ที่คุณค่าและประวัติอันน่าสนใจ ใครจะไปรู้ล่ะครับ ถ้าเกิดรถที่คุณมีอยู่อาจจะเป็นแค่คันเดียวในโลกก็ได้"50จีทีบี, 275จีทีบี, 365จีทีบีโฟร์ โดยมีรุ่น 348จีทีบีเป็นรุ่นสุดท้ายที่ใช้รหัสนี้และวางขายในระหว่างปี 1993-1995 ซึ่งรหัสจีทีบีจะต่างจากรุ่นทั่วไป ตรงที่ได้รับการเซ็ตให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะสูงขึ้นและสามารถใช้ในสนามแข่งได้ โดยมากับตัวถังแบบหลังคาแข็งหรือที่เรียกว่าเบอร์ลิเน็ตต้า (Berlinetta-ซึ่งตัว B ที่ต่อท้ายก็ย่อมาจากคำนี้) เท่านั้น รูปลักษณ์ภายนอกได้รับการออกแบบโดยพินินฟารินา ขณะที่โครงสร้างตัวถังและระบบช่วงล่างผลิตจากอะลูมิเนียม จึงทำให้มีน้ำหนักเบาในระดับประมาณ 1,400-1,500 กิโลกรัม ขณะที่ตัวถังมีความยาว 4,665 มิลลิเมตร กว้าง 1,960 มิลลิเมตร สูง 1,336 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร พร้อมกับเสริมความปราดเปรียวด้วยล้อแม็กลายสวยขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 245/40ZR19 ที่ล้อหน้า และขนาด 20 นิ้วพร้อมยาง 305/35ZR20

BMW ดันสปอร์ตหรูX3ลงถนน
Last update:2006-02-02 Source :Blog
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดฉากปี 2549 ด้วยการนำเอา BMW X3 ขนาด 2.5 ลิตร ที่ประกอบภายในประเทศออกขายแล้ว พร้อมรับจองและส่งรถให้ลูกค้าได้ปลายเดือนนี้ กล่าวถึง X3 เจนเนอเรชั่นนี้ทางเทคนิคแล้ว ต้องบอกว่า มาเต็มกำลัง ผ่านเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงขนาด 2.5 ลิตร ที่สร้างกำลังสูงสุด 192 แรงม้า แรงบิด 245 นิวตันเมตร พร้อมกับระบบส่งกำลังอัตโนมัติแบบ 5 สปีด ที่สามารถเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 10 วินาที สำหรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อนั้น X3 ตัวนี้ยังผนวกเอานวัตกรรมขับเคลื่อนแบบใหม่หรือ xDrive เข้ามาเสริมอีกด้วย โดยระบบ xDrive นี้จะทำให้ X3 สามารถที่จะบุกตะลุยไปยังพื้นผิวถนนได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นบนท้องถนนหรือพื้นที่ Off Road ผ่านการกระจายกำลังขับเคลื่อนระหว่างเพลาขับเคลื่อนหน้าและหลังได้แบบผันแปรตลอดเวลา X3 ที่ออกมาทำตลาดมี 2 เวอร์ชั่น คือ รุ่นมาตรฐานราคา 3.5 ล้านบาท และรุ่นพิเศษราคา 3.8 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 เวอร์ชั่นนี้จะมาพร้อมกันกับ ชุดแต่งกันชนหน้าและหลังแบบ “เอ็ม แอร์โร่ว์ ไดนามิก” ที่พ่นสีเดียวกันกับตัวถังรถ ล้ออัลลอย 17 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ต และไฟหน้าไบซีนอนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สำหรับโปรแกรมการดูแลรักษานั้น X3 มีโปรแกรมเช่นเดียวกับ BMW รุ่นใหม่คันอื่น ๆ คือ ดูแลอย่างใกล้ชิดและสมบูรณ์เป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งจะทำให้เจ้าของรถทุกท่านสบายใจและไม่ต้องวิตกกับเรื่องค่าใช้จ่ายตลอดระยะการดูแล นอกเหนือไปจากนี้ ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของ X3 ได้ด้วยโปรแกรมทางการเงินแบบ “แวลูพลัส” ด้วยการวางเงินมัดจำเริ่มต้นที่ 875,000 บาท และชำระค่าใช้จ่ายต่อเดือนต่ำกว่า 50,000 บาท ซึ่งเมื่อหมดสัญญาสามารถจะคืนรถของตนเองให้กับดีลเลอร์ที่ตนเองซื้อ พร้อมรับเงินมัดจำเริ่มต้นคืนกลับไปได้เลย.

ป้ายกำกับ:

โคนัน


บล็อกของเหล่านักสืบ
page="Roan2007";
sv=1.2;ss=screen.width+'*'+screen.height;sc=(bn=='MSIE')?screen.colorDepth:screen.pixelDepth;if(sc==udf){sc='na';}
sv=1.3;

Group Blog
Group ตัวอย่าง


เมษายน 2550

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30


24 เมษายน 2550
ตอนจบ : คดีสุดท้ายของโคนัน ตอนที่ 3
ตอนจบ : คดีสุดท้ายของโคนัน ตอนที่ 2
โคนัน ภาคจบ ตอน 1

All Blogs
ตอนจบ : คดีสุดท้ายของโคนัน ตอนที่ 3
ตอนจบ : คดีสุดท้ายของโคนัน ตอนที่ 2
โคนัน ภาคจบ ตอน 1


โคนัน ภาคจบ ตอน 1
หลังจากที่โคนัน (หรือจริง ๆ แล้วชินอิจินั่นแหละ) เข้าไปอาศัยอยู่ที่สำนักงานนักสืบโมริเป็นเวลานานหลายเดือน ในที่สุดวันนี้ วันที่เขารอคอยก็มาถึง โมริ โคโกโร่ ได้รับแจ้งให้ไปสืบคดีฆาตกรรมคดีหนึ่งที่โรงแรมควีนกลางกรุงโตเกียว คดีฆาตกรรมปิดฉากลงเรียบร้อยด้วยฝีมือการคลี่คลายของโคนัน (ถึงแม้ความดีความชอบจะตกเป็นของโคโกโร่ก็เถอะ) แต่โคนันสืบได้ว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับพวกชายชุดดำ เขาเจอสมุดบันทึกเล่มนึงของผู้ตาย และเขาก็เก็บเอามาแล้วด้วย เขาแอบมันไว้ในเสื้อ หลังคดีปิดลงก็มืดพอดี โคนัน รัน โคโกโร่เดินกลับบ้าน ระหว่างทาง “พี่รันฮะ คุณลุง ผมจะไปค้างบ้านดร.นะฮะ ตอนกลางวันดร.โทรมาบอกว่ามีของเล่นชิ้นใหม่จะให้เล่น ผมไปนะฮะ” พูดจบโคนันก็วิ่งออกไปทันที ทิ้งให้อีกสองคนมองตามอย่างครุ่นคิด ‘นึกว่ามันจะไม่ใช่เด็กธรรมดาซะอีก เฮ้อ สงสัยคิดมากไป’ โคโกโร่คิด ‘ความรู้สึกแบบนี้ เหมือนตอนนั้นเลย’ รันคิดทันใดก็มีน้ำตาเอ่ออยู่ที่ตา + + + + + + + + + + โคนันวิ่งมาจนถึงหัวมุมหนึ่ง เขาไม่ได้ไปบ้านดร.อากาสะ เขาหยุดอยู่ที่หัวมุมนั้น หยิบเอาบันทึกของผู้ตายขึ้นมา เปิดไปที่หน้าที่เขาคั้นเอาไว้ มันเป็นบันทึกของปีที่แล้ว วันที่ 19 เดือน 9 ช่วงนี้มีคนสะกดรอยตาม พวกมันอยากได้อะไรกันนะ หรือว่าพวกมันต้องการชีวิตฉัน ไม่นะ ฉันยังไม่อยากตาย วันที่ 21 เดือน 9 เมื่อไหร่พวกมันจะเลิกสะกดรอยตามซะทีนะ พวกมันต้องการอะไรกันแน่ วันที่ 30 เดือน 9 และแล้วความอดทนของฉันก็สิ้นสุดลง วันนี้เองที่ฉันต้อนพวกมันออกมาได้ฉันขู่มันว่าถ้าไม่ออกมาฉันจะแจ้งความ พวกมันออกมา พระเจ้า มันแต่งชุดดำทั้งชุด แม้แต่แววตาของพวกมันยังส่อให้เห็นถึงแววตาโหดเ***้ยมแววตาของปีศาจ หัวหน้าของมันยิ่งหน้ากลัวใหญ่ ผมยาวของมันยิ่งทำให้เค้าหน้ามันดูโหดเ***้ยมยิ่งขึ้น มันบอกฉันว่ามันมีธุระกับฉัน มันจะติดต่อกับฉันอีกที “คงจะเป็นยีน ครั้งนี้พวกแกพลาดครั้งใหญ่เลยนะ ปล่อยให้เหยื่อทิ้งหลักฐานชิ้นโตเอาไว้แบบนี้น่ะ” โคนันพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยแล้วอ่านบันทึกเล่มนั้นต่อ วันที่ 3 เดือน 10 หลังจากรอพวกมันให้ติดต่อมาอยู่หลายวัน หลังจากที่ฉันต้องอยู่ในอาการหวาดผวามาตลอด วันนี้หลังกลับจากไปกินเลี้ยงฉันเจอกระดาษแผ่นนึงวางอยู่บนโต๊ะทำงานของฉัน พระเจ้า ฉันอยากจะร้องไห้เหลือเกิน กระดาษแผ่นนั้นเขียนด้วยลายมือเลือด มันน่ากลัวเหลือเกิน แล้วฉันก็ต้องตกใจหนักเข้าไปอีก พวกมันรู้ มันรู้อดีตของฉัน พระเจ้า มันขู่ให้ฉันร่วมมือกับมัน ไม่งั้นมันจะบอกตำรวจ ฉันจะทำยังไง คงต้องร่วมมือกับพวกมันกระมัง “บ้าจริง อดีตอะไรกันนะ นายนานาตะมีอดีตอะไรกันแน่นะ” โคนันเริ่มหงุดหงิดแล้วจึงอ่านต่อ วันที่ 5 เดือน 10 ฉันตัดสินใจเด็ดขาดแล้วฉันจะร่วมมือกับพวกมัน วันที่ 7 เดือน 10 พวกมันติดต่อมาแล้ว พวกมันบอกให้ฉันไปหาที่โรงแรมควีน วันพรุ่งนี้ วันที่ 8 เดือน 10 พวกมันบอกให้ทำจริง ๆ ทำในสิ่งที่ฉันเลิกทำมานับสิบปี วันที่ 10 เดือน 10 ฉันกำลังเริ่มทำ ทำงานให้พวกมัน คิดดูแล้วก็คุ้มเหลือเกิน ทำงานแค่ชิ้นเดียวแต่ได้เงินเยอะเป็นบ้า “งานอะไรนะ ทำอะไรกันแน่ นายนานาตะคนนี้มีอดีตอะไรกันนะ มันต้องเป็นอดีตที่ผิดกฎหมายแน่ ๆ ไม่งั้นคงไม่กลัวตำรวจ” โคนันชักโมโห แล้วเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาหยิบโทรศัพท์รูปต่างหูออกมาแล้วโทรไปหาดร.อากาสะ “ดร.ช่วยสืบหาข้อมูลของคนที่ชื่อ นานาตะ ซามากิ ให้ผมหน่อยนะครับ”พูดจบก็วางหูทันที + + + + + + + + + + “นานาตะ ซามากิ” คนอีกฝั่งทวนชื่อนี้ช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด “ใครโทรมาเหรอ หนูไอ” ความจริงแล้วคนรับโทรศัพท์คือ ไฮบาระ ไอ!!! “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เค้าโทรผิดน่ะค่ะ หนูขอตัวขึ้นข้างบนก่อนนะค่ะ” ระหว่างเดินขึ้นบันไดก็คิดอะไรไปมากมาย ‘เกิดอะไรขึ้น ทำไมหมอนั่นถึงต้องการข้อมูลของนานาตะ หรือว่า…’ คิดได้แค่นั้นก็แสดงสีหน้าตกใจออกมา + + + + + + + + + + “บ้าจริง ฝนตก” โคนันพูดอย่างหงุดหงิดเต็มที เขาวิ่งมาหาที่หลบฝน วิ่งมาจนถึงร้านกาแฟแห่งนึง เขาจึงเดินเข้าไปข้างใน นั่งลงที่โต๊ะนึง แล้วอ่านบันทึกต่อ วันที่ 16 เดือน 10 และแล้วฉันก็หาส่วนประกอบที่ต้องการทั้งหมดได้ครบแล้ว เอาล่ะ ฉันจะเริ่มทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างซะทีล่ะนะ “ลูกพี่ วันนี้สะใจจริง ๆ เลยนะ” เสียงใครสักคนที่นั่งอยู่หลังโคนันดังขึ้น ‘พูดเสียงดังอย่างงี้ แย่จริง เสียสมาธิหมด’ โคนันคิด “พูดเบา ๆ ซิวะ อยากให้ใครเค้าได้ยินรึไง” เสียงนี้ทำให้โคนันถึงกับสะดุ้ง “ว็อดก้านี่นา” โคนันพูดกับตัวเองเบา ๆ “ฮะฮ้า มาให้ดมกลิ่นถึงที่เลยนะ คงไม่ปฏิเสธล่ะ” โคนันพูดเบา ๆ แล้วแอบฟังพวกคนชุดดำคุยกัน “แต่ทำไมวันนี้เราไม่ใช้ยานั่นล่ะพี่” อีกเสียงดังขึ้น “ลูกพี่ใหญ่สั่งห้ามใช้” คงหมายถึงยีนนั่นเอง โคนันนั่งฟังชายชุดดำคุยกันอย่างสนใจ เขาเก็บสมุดบันทึกเอาไว้ในเสื้อตามเดิม สั่งโกโก้ร้อนมากินไปด้วยเพื่อไม่ให้ใครสงสัย แต่เค้าไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ามีใครคนนึงกำลังแอบมองเขาอยู่เหมือนกัน “เหยื่อติดเบ็ดแล้วซินะ” คน ๆ นั้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม “ว่าไงนะ ได้ ได้ จะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” เสียงว็อดก้าคุยโทรศัพท์ โคนันรีบจ่ายเงินทันที ว็อดก้ากับลูกน้องกำลังออกไปแล้ว โคนันรีบตามทันที เค้าเอาเครื่องดักฟังรูปกระดุมติดไปที่ลูกน้องของว็อดก้าอย่างยากลำบาก แต่ก็สำเร็จ ข้างนอกฝนหยุดตกแล้ว “เอาล่ะ เดี๋ยวค่อยตาม” เขาพูดกับตัวเองเบา ๆ โดยไม่รู้เลยว่ามีใครกำลังตามเขามาอย่างเงียบ ๆ “ทำไมดร.ไม่โทรกลับมาซะทีนะ” โคนันพูดกับตัวเองอีกครั้งในขณะที่เดินอยู่ ตอนนี้เขากำลังสะกดรอยตามพวกชายชุดดำอยู่ “เอ๋ พวกมันจะไปไหนกันนะ ทำไมสัญญาณมันเคลื่อนที่เร็วอย่างงี้ล่ะ คงจะไปรถซินะ เอาล่ะ ยืมหน่อยนะ” พูดกับตัวเองแต่ก็คว้ารถจักรยานเด็กที่จอดอยู่ใกล้ ๆ ไป “ชิ” เสียงดังขึ้นจากริมฝีปากของใครคนหนึ่งที่สะกดรอยตามโคนันมา มันรีบเดินไปคว้ารถจักรยานอีกคันที่เป็นของผู้ใหญ่ตามโคนันไป “หรือว่ามันจะรู้ตัวแล้ว” ใครคนนั้นเหมือนจะพึมพำกับตัวเองซะมากกว่า “ไม่หรอกน่า ไม่มีทางหรอก” มันพูดอีกครั้ง + + + + + + + + + + “อ้าว จะไปไหนน่ะ” เสียงของโคโกโร่ดังขึ้น “หนูรู้สึกใจไม่ดีน่ะค่ะพ่อ จะไปดูโคนันที่บ้านดร.ซะหน่อย” รันตอบ “นั่นซินะ วันนี้พ่อเองก็ใจไม่ดีเหมือนกัน รู้สึกเป็นห่วงเจ้าเปี๊ยกนั่นตะหงิด ๆ ไปดูมันซะหน่อยก็ดี ไปเถอะ” โคโกโร่ว่า + + + + + + + + + + โคนันสะกดรอยตามพวกว็อดก้ามาจนถึงโรงงานแห่งหนึ่ง โรงงานที่น่ากลัวเหลือเกิน โรงงานที่ให้บรรยากาศเหมือนโรงฆ่าสัตว์ โรงงานที่ทำให้คนมองอยากจะเบือนหน้าหนี “นี่คงเป็นรังของพวกมัน” โคนันพึมพำเบา ๆ เขาเอารถจักยานไปแอบไว้หลังพุ่มไม้ แล้วค่อย ๆ ย่องเข้าไปในโรงงานแห่งนั้น เกิดรอยยิ้มเ***้ยมขึ้นที่หน้าของใครอีกคนที่ตามโคนันมา “ได้เวลาแล้วซินะ คุโด้ ชินอิจิ” ใครคนนั้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงของซาตาน + + + + + + + + + + “อ้าว พี่รัน จะไปไหนค่ะ” มีเสียงทักขึ้นข้างหลัง รันจึงหันไปดู “อ้าว อายูมิ พี่จะไปบ้านดร.น่ะจ้ะ เอ๋ อายูมิไม่ได้อยู่ที่นั่นหรอกเหรอ” รันพูดทำหน้าครุ่นคิด “เปล่านี่ค่ะ ทำไมเหรอค่ะ” อายูมิจังถาม “โคนันบอกพี่ว่าดร.ทำของเล่นชิ้นใหม่ได้น่ะจ้ะ” “แย่จัง ไม่เห็นมีใครบอกอายูมิเลยนี่ค่ะ คอยดูนะพรุ่งนี้อายูมิจะโวยวายให้ดู” พูดพลางทำหน้าจริงจังไปด้วย “อายูมิจัง กลับบ้านเถอะลูก” แม่ของอายูมิมาตาม “ค่ะ ไปนะค่ะพี่รัน” อายูมิโบกมือให้รัน รันได้แต่ยืนมองด้วยแววตาเศร้า ๆ เท่านั้น ในใจเธอเป็นห่วงโคนันเหลือเกิน “ในที่สุดก็ถึงซะที ดร.ค่ะ ไฮบาระ โคนัน” รันยืนตะโกนเรียกอยู่หน้าบ้านดร. แต่ทุกอย่างเงียบ ไม่มีใครออกมา ไม่มีเลย “ไม่อยู่กันหรอกเหรอ ไปไหนนะ” รันพูด พลางน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา เธอนั่งลงที่หน้าบ้านของดร.แล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่นึกอายใคร เธอเป็นห่วงโคนันเหลือเกิน เธอเป็นห่วงเค้าคนนั้น + + + + + + + + + +
ตอนจบ : คดีสุดท้ายของโคนัน ตอนที่ 2
โคนันเดินเข้ามาในโรงงานของพวกชายชุดดำ ว็อดก้าเดินเข้าไปในห้อง ๆ นึง ลูกน้องของเขาเข้าไปด้วย โคนันหามุมที่ไม่มีใครเดินผ่านได้ เค้าฟังพวกมันคุยกันผ่านทางเครื่องดักฟัง “ทำไมถึงเป็นอย่างงี้ล่ะ” เสียงของว็อดก้า “ฉันซิที่ต้องถามพวกแก ว่าทำไมเป็นอย่างงี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” เสียงใครคนนึงที่คุ้นหูโคนันดังขึ้น แต่เขานึกไม่ออกเลยจริง ๆ ว่ามันเป็นเสียงของใคร “หรือว่า จะมีคนทรยศครับ” เสียงนั้นเป็นของว็อดก้า “ฉันก็คิดว่าน่าจะเป็นอย่างงั้น แต่ใครกันล่ะที่ทรยศ ใครกัน” เสียงที่คุ้นหูดังขึ้นอย่างดุดัน “เอ่อ หรือว่าจะเป็นลูกพี่…” “แกสงสัยชั้นเหรอว็อดก้า” เสียงของยีนดังขึ้น “เปล่าครับ ผม…ผมไม่กล้าหรอกครับ” ว็อดก้าแก้ตัวตะกุกตะกัก “แต่เมื่อกี้นี้ฉันได้ยิน…” “หยุดซะที” เสียงที่คุ้นหูโคนันดังขึ้นอีก โคนันกำลังสงสัยว่าเค้าคงเป็นหัวหน้าของพวกชายชุดดำ “แทนที่พวกแกจะมาเถียงกัน ทำไมไม่ลองคิดดูให้ดีว่าใครที่มันทรยศเรา” เสียงนั้นดังขึ้นอีก “หรือว่าจะเป็นคริส..” เสียงว็อดก้าดังขึ้นอีก “ไม่มีทาง คริสคือคนที่ฉันไว้ใจที่สุด” เสียงของหัวหน้าใหญ่ดังขึ้นอีก “หรือว่าแก ว็อดก้า” ยีนพูดขึ้น “โธ่ ลูกพี่อย่าพูดเล่นอย่างนี้ซิฮะ ผมไม่กล้าหรอก” ว็อดก้าพูดอย่างรวดเร็ว “บางทีอาจจะเป็น…” เสียงหัวหน้าใหญ่ดังขึ้น ทันใดนั้นโคนันรู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังมองเค้าอยู่ เมื่อโคนันเงยหน้าขึ้นไปก็เจอกับ “อาจารย์โจดี้” โคนันพูด “มาแอบฟังอยู่ตรงนี้จะมีอะไรดีขึ้นมาล่ะ คุโด้ ชินอิจิ” คำทักทายแบบนี้ทำเอาโคนันถึงกับสะดุ้ง “เอาล่ะคุโด้คุง เราเข้าไปข้างในกันดีกว่า” ว่าพลางก็เอาผ้าเช็ดหน้าที่มียาสลบโปะเข้าใส่โคนันแล้วลากตัวเขาเข้าไปในห้องประชุม “สวัสดีค่ะ หัวหน้า ยีน ว็อดก้า” เธอเน้นเสียงหวานที่ชื่อของยีน “คริส” ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน ที่แท้อาจารย์โจดี้ก็คือ คริส วินยาร์ต นักแสดงชื่อดังจากอเมริกานั่นเอง ที่แท้เธอก็เป็นส่วนหนึ่งของพวกชายชุดดำ “เอาล่ะ ฉันมีของขวัญชิ้นพิเศษมาให้กับทุก ๆ คน” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเ***้ยมเกรียม แล้วถอยหลังออกไปนิดหน่อยให้ทุกคนได้เห็นโคนัน “โคนัน” เสียงของหัวหน้าใหญ่ดังขึ้น “ผิดแล้วล่ะค่ะ เด็กคนนี้คือ คุโด้ ชินอิจิตังหากล่ะคะ” คริสยังพูดต่อไป “เธอจับมันได้ที่ไหนคริส” ยีนเอ่ยถามขึ้น “ในโรงงานนี่ล่ะ มันสะกดรอยตามว็อดก้ากับแบรคมา” (แบรคคือลูกน้องของว็อดก้าค่ะ) “ว็อดก้า ทำไมนายไม่ระวัง” ยีนเอ่ยขึ้นอีก “ผมขอโทษ หัวหน้าครับ เราจะทำยังไงกับมันดีล่ะครับ” ว็อดก้าเปลี่ยนเรื่อง “เอาไปขังไว้ก่อน” เสียงหัวหน้าใหญ่ฟังดูมีแววเ***้ยมเกรียม + + + + + + + + + + “เอ๋ พ่อออกไปไหนล่ะเนี่ย สงสัยจะออกไปซื้อเหล้าอีกแล้วล่ะซิ” รันพูดขึ้นหลังจากขึ้นมาบนบ้านแล้ว “ป่านนี้หมอนั่นจะเป็นไงบ้างนะ” เธอยังพูดต่อด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ พลันตาก็เหลือบไปเห็นกระดาษบนโต๊ะ “พ่อไปเล่นไพ่นกกระจอก ไม่ต้องรอนอนไปก่อนได้เลย” เธออ่านเสียงดังแล้วนั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวแล้วคิดถึงเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา แต่แววตา ท่าทางครุ่นคิดของเธอต้องสะดุดลงเมื่อมีคนมาเคาะประตูบ้าน เธอลุกขึ้นมาเปิดประตูบ้าน “พี่หมอ” รันพูดขึ้นหลังจากเห็นว่าใครที่มาหาเธอ + + + + + + + + + + “ที่นี่ที่ไหนกันนะ…ทำไมมันมืดอย่างนี้ล่ะ หรือว่าเราจะตายแล้ว แต่…โอ้ย เจ็บที่นา เราคงยังไม่ตายหรอก หรือว่าพวกมันจะจับเรามาขังไว้” โคนันพึมพำกับตัวเองเบา ๆ สติของเขาเริ่มกลับคืนมาอีกครั้ง “จะทำยังไงดี พวกมันต้องฆ่าเราแน่ ๆ…แล้ว…แล้วเราก็คงไม่ได้เจอกับเธอคนนั้นอีก คงไม่ได้กลับไปเป็นคุโด้ ชินอิจิอีก…เราจะทำยังไงดี หรือว่าเราจะโทรไปหาดร.ดี…หรือจะโทรไปหาเจ้าบ้าเฮย์จิ หรือจะโทรไปหาเธอ รัน ฉันจะทำยังไงดี” เขาพึมพำกับตัวเองอีกครั้ง “ไม่…ไม่ได้…เราจะให้ใครมาเดือดร้อนไปกับเราไม่ได้ แต่…แต่ถ้าไอ้พวกนี้มันไม่ถูกจับ พวกมันก็ต้องทำร้ายคนอีกมากมาย แต่ถ้าเราโทรไปหาเฮย์จิล่ะก็… ไม่ หมอนั่นอาจจะตกอยู่ในอันตรายถ้าเราโทรไป ฉันจะทำยังไงดีนะ” “ชั้นต้องหาทางออกไปจากที่นี่และจับไอ้พวกนั้นให้ได้ด้วยตัวของชั้นเอง” เค้าพึมพำออกมาอย่างมุ่งมั่น + + + + + + + + + + “อะไรนะ…จริงเหรอ…ได้…ได้…ฉันจะรีบไป…ได้…อืม…รู้แล้วน่า…ได้…รอฉันสักเดี๋ยวล่ะกัน” เสียงใครบางคนคุยโทรศัพท์อยู่ + + + + + + + + + + เวลาผ่านไปเนิ่นนาน โคนันกำลังนั่งคิดอะไรบางอยู่ อยู่ในที่คุมขังมืดมิดนั่น “ใครกันนะ เสียงนั่น เสียงที่คุ้นหูเหลือเกิน เสียงของใครกันนะ มันเป็นใครกันแน่นะ” “เสียงคุ้นหูเหลือเกิน ฉันต้องรู้จักมันแน่ ๆ “ “แล้วยังจะมีอาจารย์โจดี้อีก เธอเป็นใครกันแน่นะ หรือว่า…” “ต้องใช่แน่ ๆ ผู้หญิงคนนั้น คน ๆ นั้น” “คริส วินยาร์ต ต้องเป็นเธอแน่ ๆ มิน่าล่ะ ถึงได้หายไปเลยนับตั้งแต่อาจารย์โจดี้ปรากฎตัวขึ้น” “และคน ๆ นั้นก็ต้องเป็น…..เค้าอย่างแน่นอน” “แต่ว่าเค้าอย่างนี้ทำไมนะ ทำไมเค้าถึงต้องทำอย่างนี้นะ” + + + + + + + + + + “แล้วทำไมไม่บอกให้มันเร็วกว่านี้ล่ะ อยากให้หมอนั่นตายไปก่อนรึไง” เสียงของเฮย์จินั่นเอง เค้ากำลังโวยวายใครบางคนอยู่ “หมอนั่น หมอไหน ก็นายจะให้ฉันทำยังไงล่ะ ก็ฉันติดต่อนายไม่ได้เลยนี่” คาซึฮะเถียงต่ออย่างไม่ลดละ “แล้วเธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไงล่ะ” เฮย์จิถาม “รันโทรมาบอกน่ะสิ ไม่งั้นฉันจะรู้ได้ยังไงกันล่ะ” “บ้าจริง ดึกป่านนี้แล้วจะไปหาตั๋วเครื่องบินที่ไหนทัน นี่ขับรถให้มันเร็ว ๆ หน่อยซิ” ว่าพลางก็หันไปเร่งคนขับรถแท็กซี่ที่นั่งอยู่ข้างหน้า คนขับรถหันมาดูเขาทีนึงแต่ก็ไม่อยากจะเถียงด้วย ในที่สุดก็ถึงสนามบิน “ขอโทษนะค่ะ เที่ยวบินสุดท้ายตั๋วหมดแล้วและเครื่องก็จะออกในอีก 20 นาทีนี้แล้วค่ะ” เสียงพนักงานที่สนามบินพูดกับพวกเฮย์จิ “เห็นม่ะ ไม่มีตั๋วแล้ว ไปพรุ่งนี้ไม่ได้รึไง” คาซึฮะถาม “เธอจะบ้าเหรอ รันโทรมาบอกว่าโคนันหายตัวไปเธอยังจะไม่เดือดร้อนอีกเรอะ” “ก็แค่หายตัวไปเองนี่นา พ่อรันเป็นนักสืบนะ เดี๋ยวก็หาตัวเจอแล้วล่ะ” “เธอไว้ใจตาลุงนั่นงั้นเหรอ เฮ้พี่ชาย” พูดกับคาซึฮะจบก็หันไปพูดกับผู้ชายอีกคนที่เพิ่งเดินมาอยู่ใกล้ ๆ “พี่ชายจะไปไหนเหรอ” “อ้อ พี่กับแฟนจะกลับบ้านที่โตเกียวน่ะ” + + + + + + + + + + “ทำไมมาช้าจังเลยล่ะ เฮย์จิ” รันถาม “ก็ยัยนี่น่ะซิ” พูดพลางก็เหล่ไปที่คาซึฮะ “ก็นายอยากปิดมือถือเองนี่นา” “มือถือมันแบตหมดตะหากล่ะ” “ดีนะที่ฉันบอกพี่ชายคนนั้นว่าพ่อเจ็บหนักต้องรีบมาน่ะ แล้วก็ดีนะที่พี่ชายคนนั้นใจดีขายตั๋วให้น่ะ” เฮย์จิยังพึมพำอยู่ “เอาล่ะรีบไปกันเถอะ ไปช่วยหมอนั่นกัน” + + + + + + + + + + ตอนจบ : คดีสุดท้ายของโคนัน ตอนที่ 3
“ไปทางไหนต่อน่ะ” เสียงหนึ่งดังขึ้น “ทางนี้” อีกเสียงที่ฟังดูเล็กกว่าตอบกลับมา “เธอแน่ใจนะ ว่าจำทางไม่ผิดน่ะ” อีกเสียงที่ฟังดูทุ้มที่สุดดังขึ้น “แน่ใจซิ” “แล้วเราจะไว้ใจเธออีกได้ยังไง” เสียงแรกดังขึ้นอีก “ถ้าไม่ไว้ใจก็ไม่ต้องตามมา” เสียงเล็ก ๆ นั้นตอบกลับมาอีกครั้ง “ใกล้จะถึงรึยังล่ะ” เสียงที่ทุ้มที่สุดเอ่ยขึ้น “อีกนิดนึง นิดเดียวเท่านั้น รอหน่อยนะ” เสียงเล็ก ๆ ตอบกลับมาอีกครั้ง แต่ประโยคหลังเหมือนจะพูดกับตัวเองมากกว่า + + + + + + + + + + “เราจะไปทางไหนกันล่ะ” เฮย์จิถามขึ้น “จากที่ผมสืบมามันน่าจะอยู่ทางนี้นะครับ หรือหมวดว่ายังไงครับ” พี่หมอของรันหรืออาราอิเดะ โทโมอากิเอ่ยขึ้น “อ้อ ผมไม่ทราบหรอกครับ ก็คุณไม่เคยบอกผมเรื่องตัวจริงของคุณเลยนี่” “นั่นซิ นั่นซิ ปิดเรื่องไว้ซะเงียบเลยนะ” เสียงของหมวดทาคางิกับหมวดซาโต้นั่นเอง “อย่างเพิ่งทะเลาะกันเลยค่ะ เราต้องไปช่วยโคนัน เอ่อ หมอนั่นก่อนนะค่ะ” รันพูดอย่างร้อนใจ + + + + + + + + + + “ในที่สุดก็ออกมาได้ซะที” เสียงใครบางคนพึมพำขึ้นพร้อมกับเสียงหอบเหนื่อยแล้วเขาก็ได้ยินเสียงของใครบางคนข้างล่างพูดกัน “เชอร์รี่ เธอเองเหรอเนี่ย ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะ ไปทำภารกิจลับซินะ” เสียงของคริสนั่นเอง “ใช่ แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยนะ ขนาดฉันอยู่ใกล้คุโด้มากกว่าเธอ ยังโดนเธอแย่งผลงานไปได้ เฮ้อ ความจริงฉันน่าจะจับตัวหมอนั่นมาตั้งแต่แรก ไม่น่าเลย” อีกเสียงตอบกลับมา โคนันที่ฟังอยู่ในช่องแอร์ข้างบนถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินเสียงของไฮบาระดังขึ้น และต้องตกใจมากกว่าเดิมเมื่อเขาได้รู้ว่าความจริงแล้วไฮบาระปลอมตัวไปเพื่อจะจับเขา “แล้วเธอจัดการกับดร.อะไรนั่นยังไงล่ะ เชอร์รี่” คริสถามอีก “ก็ปิดปากเขาไปชั่วนิรันน่ะซิ” น้ำเสียงฟังดูโหดขึ้นเล็กน้อย โคนันถึงกับอึ้งหนักเข้าไปอีกเมื่อได้ยินคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของไฮบาระ “เอาล่ะ ฉันจะไปแปลงโฉมให้กลับมาเป็นคนเดิมซะหน่อยขอตัวนะ คริส” ไฮบาระเอ่ยขึ้นแล้วเดินจากไป + + + + + + + + + + ประตูห้องคุมขังของโคนันโดนเปิดออกแต่ข้างในกลับว่างเปล่า ทำให้คนที่มาเปิดถึงกับหน้าเสีย “หายไปไหนแล้วล่ะ หรือว่าจะหนีไปแล้ว บ้าจริง” ประตูห้องปิดลงเหมือนเดิมอีกครั้ง + + + + + + + + + + “ไม่อยากจะเชื่อ ไฮบาระ ที่แท้เธอปลอมตัวเข้าไปเพื่อจับฉันเหรอเนี่ย” โคนันพึมพำกับตัวเองเบา ๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อเลย ตอนนี้เค้าออกมานอกโรงงานได้แล้วแต่กว่าจะออกมาได้ก็ช่างยากลำบากเหลือเกิน และตอนนี้ฟ้าก็เริ่มสว่างแล้วด้วย ถัดออกไปไม่ไกลนัก มีคนเห็นโคนันเข้าแล้ว “นั่นมัน…” เสียงทุ้ม ๆ ของใครคนนึงดังขึ้น “ใช่จริง ๆ ด้วย” อีกเสียงดังขึ้น แล้วทั้งสองก็ออกวิ่ง สองคนนั้นวิ่งมาทางด้านหลังของโคนัน หนึ่งในสองเอามือปิดปากโคนันเอาไว้ โคนันเริ่มดิ้นแต่แล้ว พล้อก ! ! ! ชายอีกคนเอาไม้ตีหัวโคนัน ด้วยร่างกายที่อ่อนเพลียอยู่แล้วทำให้โคนันสลบทันที + + + + + + + + + + “หนีออกมาได้ยังไงกันนะ” เสียงเล็ก ๆ ดังขึ้น “แล้วจะทำยังไงกับมันล่ะ” เสียงทุ้ม ๆ ดังขึ้น “เดี๋ยวก็คงฟื้นแล้วล่ะ” อีกเสียงดังขึ้น (อ่า 3 คนนี้คือ 3 คนเดียวกับที่เคยปรากฎตัวแล้วตอนต้นตอนน่ะค่ะ) โคนันค่อย ๆ ลืมตาขึ้น แล้วเขาก็เห็นคนสามคนที่เขาไม่คิดว่าจะได้เจอ “ดร.อากาสะ ลุง ไฮ…ไฮบาระ” โคนันพูดขึ้นอย่างตกใจ “ฟื้นแล้วเหรอ” เสียงทุ้ม ๆ ของดร.อากาสะดังขึ้น “สลบไปตั้งนานเลยนะ คุโด้” ไฮบาระพูดขึ้นด้วยเสียงเล็ก ๆ ของเธอ เธอยังตัวเล็กอยู่เลย “หนี หนีเร็วลุง หนีเร็วดร. ไฮบาระ ไฮบาระจะฆ่าพวกเรา” โคนันพูดแต่โคโกโร่กับดร.อากาสะกลับหัวเราะซะนี่ โคนันหันไปมองคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างงง ๆ แล้วถามขึ้นว่า “นี่มันอะไรกันแน่น่ะ” “แกเป็นนักสืบก็คิดเอาเองซิวะ” โคโกโร่ว่า+ + + + + + + + + + “ใกล้จะถึงรึยังค่ะ พี่หมอ” รันถามด้วยความร้อนใจ “ใกล้แล้วหล่ะ เลี้ยวซ้ายอีกทีนึงก็ถึงแล้ว” “ทำไมมันไกลจังล่ะค่ะ” คาซึฮะถามบ้าง “ทำไม เหนื่อยเหรอ” เฮย์จิถามกลับ “อือ ก็เดินมาตั้งไกล” คาซึฮะตอบ “ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องมา” เฮจิย์ว่า แต่หมออาราอิเดะทำมือเป็นสัญญาณให้ทุกคนเงียบเมื่อมาหยุดอยู่ที่หน้าโรงงาน (โรงงานที่พวกโคนันอยู่อ่ะค่ะ) “พวกคุณเรียกกำลังเสริมได้แล้วล่ะ ที่นี่ไม่ผิดแน่”หมออาราอิเดะหันมาบอกหมวดทาคางิ + + + + + + + + + + “โอ้ย ผมนึกไม่ออก รีบ ๆ บอกมาซะทีซิ” โคนันโวยวาย “งั้นฟังให้ดีนะ” ดร.อากาสะว่า แล้วเริ่มเล่า “หนูไอน่ะ เค้าได้รับคำสั่งลับให้มาจับตัวนายไป เพราะพวกชายชุดดำรู้สึกสงสัยว่าทำไมอยู่ดี ๆ โมริ โคโกโร่ถึงได้เก่งกาจนัก สุดท้ายพวกมันก็จับได้ว่านายคือคุโด้ ชินอิจิ” “แต่องค์กรก็ยังไม่แน่ใจนัก พวกมันก็เลยส่งชั้นมาอยู่กับดร.เพื่อให้สืบความจริงและจับตัวนายกลับมา ฉันไม่รู้ว่าจะมาจับนายได้ยังไงนอกจากจะสร้างภาพขึ้นมาทำเป็นว่าตัวเองหักหลังองค์กร กินยานั่นเหมือนนาย แล้วก็หนีออกมาเพื่ออาศัยอยู่กับดร. ตอนแรกฉันเองก็ไม่อยากเชื่อว่าแผนนี้มันจะได้ผล” ไฮบาระเล่าบ้าง “อ๋อ เธอคงคิว่าฉันกับดร.โง่ล่ะซินะ” โคนันพูดอย่างอารมณ์เสีย “เปล่าซะหน่อย ตอนแรกฉันก็กำลังคิดอยู่เหมือนกันล่ะว่าจะบอกองค์กรว่านายไม่ใช่คุโด้ดีรึเปล่า แต่นึกไม่ถึงองค์กรกลับรู้ซะก่อนว่านายคือคุโด้ ชินอิจิตัวจริง พวกเขาเร่งให้ฉันรีบจับตัวนายกลับมา แต่เพราะฉันรู้สึกว่าเริ่มผูกพันกับ…กับทุก ๆ คนแล้วฉันเลยยืดเวลาออกไปโดยการส่งข่าวมาบอกองค์กรว่าฉันยังไม่พร้อม แต่นึกไม่ถึงว่านายจะแอบมาที่นี่ซะก่อน” ไฮบาระตอบคำถามแล้วเล่าต่อ + + + + + + + + + + “แย่แล้ว ลูกพี่ เจ้าเปี๊ยกนั่นหายไปแล้ว” ว็อดก้าวิ่งมารายงานยีน “แกว่าอะไรนะว็อดก้า” ยีนตะคอกถามว็อดก้า “เมื่อกี้นี้ผมกับแบรคจะเอาข้าวไปให้มันแต่พอเข้าไปข้างในมันก็หายไปแล้ว” ว็อดก้าพูดเสียงตะกุกตะกัก ยีนโมโหมากเขารีบวิ่งไปดูที่ห้องลับใต้ดาดฟ้าซึ่งเป็นที่คุมขังโคนัน ภายในห้องไม่มีใครอยู่จริง ๆ “นายก็กลับไปแล้ว ทีนี้จะทำยังไงล่ะลูกพี่” ว็อดก้าถาม + + + + + + + + + + “แล้งไงต่อล่ะ เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันมาอยู่ที่นี่” โคนันถามต่อ “ตอนที่นายโทรศัพท์มาน่ะ ฉันเป็นคนรับสายเองล่ะ ตอนนั้นนายพูดถึงคน ๆ นึง” “อ๋อ นายนานาตะ ซามากิ” โคนันลืมนายคนนี้ไปแล้วสนิทเลย “ใช่ มันเป็นคนขององค์กร” ไฮบาระว่า “มันทำอะไรเหรอ” โคนันถาม “ไม่รู้สิ รู้แต่ว่าคงเป็นงานใหญ่ ไม่งั้นนายใหญ่คงไม่ยอมให้เข้ามาในนี้” ไฮบาระอธิบายต่อ “พอหนูไอเค้าลงมาบอกฉันว่านายอาจจะกำลังตกอยู่ในอันตรายฉันก็เลยคิดว่าน่าจะไปหาโมริคุงให้มาช่วยๆ กันตามหานาย” ดร.อากาสะเล่าต่อ “ระหว่างทางก็เจอรันกำลังคุยอยู่กับอายูมิ แต่เราไม่อยากให้เธอต้องมาเสี่ยงไปด้วยเลยไม่ได้บอก รีบตรงไปหาคุณโมริทันที คิดว่ายังไงซะก็คงต้องบอกความจริงให้รู้แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่านายคือดุโด้ ชินอิจิ” ไฮบาระเล่าต่อ “ก็ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ฉันไม่โง่สักหน่อยฉันรู้มาตลอดล่ะ” โคโกโร่เล่าในขณะที่โคนันทำหน้าทึ่งสุด ๆ “พอสองคนนี้มาที่บ้านฉันก็พอจะรู้ล่ะว่าเกิดเรื่องขึ้นกับนาย พวกเราก็เลยออกตามหานาย” “เราไปที่ร้านกาแฟแห่งนึงก็เจอกับหมออาราอิเดะ เขาบอกว่าเห็นนายกับอาจารย์โจดี้ตรงมาทางนี้ฉันก็เลยพอจะเดาได้ลาง ๆ ว่านายกำลังถูกสะกดรอยตาม” ไฮบาระเล่าต่อ “ฉันก็เลยเอาแว่นตาสำรองสะกดรอยตามมาอีกต่อนึง แต่ระหว่างทางแบตมันหมดเลยต้องให้หนูไอนำทางต่อจนมาถึงที่นี่” ดร.อากาสะเล่า “พอมาถึงนี่เราก็ทำทีเป็นว่าให้หนูไอกลับเข้าไปในองค์กรอีกครั้งเพื่อเอาตัวแกออกมา” โคโกโร่เล่า “แต่พอฉันเปิดประตูห้องขังของนายฉันก็แทบเป็นลมเพราะไม่เจอนาย” ไฮบาระเล่าต่อ “กำลังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงดี ดร.ก็ติดต่อมาว่านายอยู่กับเขา ฉันก็เลยหนีออกมา” “แล้วทำไมต้องทุบหัวฉันด้วยล่ะ” โคนันถามอย่างเอาเรื่อง พลางเอามือจับหัวที่ตอนนี้มีผ้าพันแผลพันอยู่ “ก็นายดิ้นนี่นา” ดร.แก้ตัว "แม้แต่กระจกที่สะท้อนทีอย่างตรงไปตรงมา แต่ก็ไม่อาจสะท้อนตัวตนที่แท้จริงได้" ตอนจบ : คดีสุดท้ายของโคนัน ตอนที่ 4 “นายว่ายังไงบ้างน่ะลูกพี่” ว็อดก้าถามหลังจากยีนโทรไปรายงานนายใหญ่เรื่องที่โคนันหายตัวไป “นายไม่รับโทรศัพท์ ฉันกำลังสงสัยว่ามันคงหนีไปทางช่องแอร์” ยีนพูด “นั่นน่ะสินะลูกพี่” ว็อดก้าเสริม “แย่จริง เอ๊ะ แล้วนี่เชอร์รี่หายไปไหนแล้วล่ะ” คริสถาม “เห็นว่าจะไปพักน่ะ” ยีนตอบ “แต่เมื่อกี้นี้ ฉันไปดูที่ห้องของเธอมา ไม่เห็นมีใครเลยนี่” คริสยังพูดต่อด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “หรือว่า…” ยีนพูดแล้วทิ้งท้ายเอาไว้ + + + + + + + + + + “ทาคางิ ซาโต้ ทำอะไรทำไมไม่บอกฉันซักคำฮ่ะ คุณก็เหมือนกันหมออาราอิเดะ คุณเป็นหมอนะ นึกว่าตัวเองเป็นสายลับรึไง ทำอะไรไม่บอกผมสักคำ” สารวัตรเมงูเระเอ่ยขึ้น เขามาถึงหน้าโรงงานพร้อมกับกำลังเสริม “ขอโทษนะค่ะ สารวัตร” หมวดซาโต้เอ่ยเสียงหวาน “สารวัตรครับผมว่าเราควรจะกระจายกำลังออกเป็นสี่ส่วนนะครับ” เฮย์จิที่เงียบมานานเอ่ยขึ้น “ใช่ค่ะ ส่วนแรกเข้าทางหน้า ส่วนที่สองเข้าทางหลัง” คาซึฮะพูด “ส่วนที่สามทางซ้าย ส่วนที่สี่ด้านขวา แค่นี้เราก็ล้อมพวกมันไว้ทุกด้านแล้วล่ะค่ะ” รันพูดบ้าง “ฉันรู้หรอกน่า ฉันเป็นสารวัตรนะไม่ต้องให้เด็กอย่างพวกเธอมาสอนหรอก” สารวัตรเมงูเระพูดขึ้นจากนั้นเขาก็สั่งแบ่งกระจายกำลังออกเป็นสี่ส่วน + + + + + + + + + + “ทำไมพวกเราไม่ไปเข้าด้านหน้าล่ะเฮย์จิ มาด้านซ้ายทำไม มีแต่ต้นไม้ทั้งนั้นเลย” คาซึฮะเริ่มบ่นเพราะเฮย์จิบอกให้มาทางด้านซ้าย “เอาเถอะน่า เอะ นั่นรอยเลือดนี่” เฮย์จิหันไปเห็นรอยเลือดของโคนันที่เกิดจากการโดนทุบหัวเข้าเข้า เขาเอานิ้วไปจับแล้วพูดขึ้นว่า “แห้งแล้ว คงจะมีมาประมาณ 2 ชั่วโมงขึ้นไปแล้ว” “เลือดใครกันนะ หวังว่าคงจะไม่ใช่ของ…” รันพูดแล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ “ไม่ใช่หรอกน่ารัน ทำใจให้สบายเถอะ” คาซึฮะปลอบ “เฮย์จิ ตรงนั้นมีบ้านร้างล่ะ” หมออาราอิเดะพูด “เราไปดูกันเถอะ หมวดทาคางิ คุณพากองกำลังบุกเข้าไปก่อนนะฮะ แล้วเดี๋ยวพวกผมตามไป” เฮย์จิสั่งแล้วเรียกรันกับคาซึฮะแยกไปอีกทาง + + + + + + + + + + “ว่าไงทาคางิ นี่มันโรงงานร้างชัด ๆ พวกเธอกลับบอกว่านี่เป็นองค์กรอะไรไม่รู้บ้าบอ” สารวัตรพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “ก็หมออาราอิเดะเค้าบอกว่าที่นี่มัน…” ทาคางิเถียง “เค้าเป็นหมอนะ ส่วนนายน่ะเป็นตำรวจ ทำไมต้องเชื่อเขาด้วยล่ะ” เมงูเระเริ่มระเบิดอารมณ์ “ก็เค้าเป็น…” “ทาคางิคุง” ทาคางิพูดยังไม่ทันจบซาโต้ก็เรียกชื่อเขาเสียงดัง “เป็นอะไร” สารวัตรถาม “เป็น…เป็นคนที่น่าเชื่อถือนี่ครับ” ทาคางิตอบ แต่คำตอบนี้ทำเอาเขาถึงกับโดนด่ายกใหญ่ “งั้นเรารออยู่นี่ก่อน ดูซิว่าคุณหมอผู้น่าเชื่อถือจะว่ายังไง” สารวัตรเริ่มโมโหสุดขีด + + + + + + + + + + “คุโด้” เสียงเรียกจากเฮย์จิทำให้โคนัน ไฮบาระ ดร.อากาสะและโคโกโร่หันไปดู “พวกนาย…รัน เธอมาที่นี่ได้ยังไง” โคนันถาม “พวกฉันไม่บื้อนิ่” เฮย์จิตอบ “เรื่องมันยาวน่ะ เอาไว้ค่อยเล่าก็แล้วกัน เข้าไปในนั้นก่อนเถอะ” หมออาราอิเดะพูดพลางชี้นิ้วไปที่โรงงาน + + + + + + + + + + “ไม่มีทาง ในนี้มีคนอยู่แน่ ๆ ทำไมกลายเป็นแบบนี้ล่ะ” ไฮบาระโวยวายเมื่อเข้ามาในโรงงานซึ่งขณะนี้ไม่มีใครเลยนอกจากพวกเขากับตำรวจกำลังเสริม ในขณะที่สารวัตรเถียงอยู่กับคนอื่น ๆ โคนันก็เดินสำรวจไปทั่ว แต่เสียงของทุกคนทำให้สมาธิเขาแตกกระจายจนกระทั่ง “เงียบ ๆ กันหน่อยไม่ได้รึไง” โคนัน เฮย์จิและโคโกโร่ตะหวาดขึ้นพร้อมกัน พวกเขาสามนักสืบใหญ่กำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะมีทางหนีทางอื่นหรือไม่ ทุกคนในที่นั้นเงียบลงทันที วิ้ว วิ้ว “เสียงลมพัด” โคโกโร่พูดขึ้น “แต่ในนี้ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีทางไหนที่ลมจะพัดได้เลย นอกจาก…” เฮย์จิพูด “ห้องใต้ดิน” โคนัน โคโกโร่ เฮย์จิพูดพร้อมกันอีกครั้ง โคนันเดินไปเรื่อย ๆ ก็เห็นผนังที่นึงนูนขึ้นมาเขาจึงเอามือกดลงไป ทันใดนั้นผนังตรงนั้นก็ยุบตัวลงไปช้า ๆ ทันใดนั้นที่พื้นซึ่งเป็นปูนก็กำลังส่งเสียงดังเหมือนจะแยกจากกัน ครืน ครืน ทันใดนั้นพื้นที่บริเวณกลางโรงงานก็แปลสภาพเปลี่ยนจากพื้นปูนกลายเป็นพื้นไม้ บนไม้มีปุ่มตัวอักษรอยู่เต็มไปหมด “คงต้องใช้รหัส” โคโกโร่กล่าวขึ้น “รหัสอะไรล่ะ” เฮย์จิพูดขึ้น “อาจจะเป็นชื่อขององค์กร ไฮบาระ องค์กรเธอชื่ออะไร” โคโกโร่ถาม “ฉันไม่เคยรู้หรอกว่าองค์กรชื่ออะไร” ไฮบาระตอบ เป็นคำตอบที่ทำเอาสามนักสืบแทบอยากจะร้องไห้ “บางทีอาจจะเป็นคำว่า dead devil ก็ได้นะ” โคนันพูดขึ้น เฮย์จิลองกดดู พื้นเริ่มสั่นอีกครั้งแล้วก็แยกออกเป็นสองทางมีบันไดให้ลงไปข้างล่าง “เฮ้ นายรู้ได้ไงน่ะคุโด้” เฮย์จิถาม “แล้วฉันจะเล่าให้ฟังทีหลัง” + + + + + + + + + + “หยุดทำไมล่ะยีน เดี๋ยวพวกมันก็ตามมาทันพอดี” คริสถาม “ไม่หรอก พวกมันไม่รู้หรอก” ยีนว่า “แต่เชอร์รี่อาจจะพาพวกนั้นมา” ว็อดก้าพูดบ้าง “ไม่มีใครรู้เรื่องห้องใต้ดินนี่ นายไม่เคยบอกใครนอกจากฉัน และถึงจะรู้ว่ามีห้องนี่แต่ก็ไม่มีทางรู้รหัสหรอก” ยีนพูด “นายสร้างห้องนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” คริสถาม “นายไม่ได้สร้างเองหรอก นายจ้างนายนานาตะมาสร้าง เมื่อปีที่แล้วแต่เพิ่งจะเสร็จเมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง” ยีนอธิบาย “มิน่า นายไม่ให้มานี่เลย ตั้งแต่ปีก่อน” ว็อดก้าพูดขึ้น “หยุดนะ พวกนายหนีไปไหนไม่รอดแล้วล่ะ” เสียงของเฮย์จิดังขึ้นพวกเขาไล่มาทันแล้ว “แย่แล้วยีน เราจะทำยังไงต่อล่ะ” คริสถาม “เธอกับว็อดก้า แล้วก็คนอื่น ๆ ต้องโดนจับน่ะสิ” ยีนตอบ “อะไรนะ” คริสถาม + + + + + + + + + + “เห็นมั้ยล่ะค่ะ สารวัตรที่นี่มีคนอยู่จริง ๆ ด้วย…” ซาโต้พูดขึ้นแต่ก็ต้องชะงักไปเพราะเมงูเระไม่ได้อยู่ตรงนั้น “เอ๋ สารวัตรหายไปไหนนะ คุณรันเห็นบ้างไหมค่ะ” ซาโต้ถาม “ไม่เห็นเลยล่ะค่ะ โคนัน ก็หายไปเหมือนกันค่ะ” รันตอบ “คุณซาโต้ครับ เดี๋ยวผมจะพาผู้ต้องหากลับสน.ก่อนนะครับ” ทาคางิมารายงาน ผู้ต้องหาของเขาก็คือ คริส ยีน ว็อดก้า และสมาชิกขององค์กรอีกหลายคน + + + + + + + + + “จะหนีไปไหนเหรอครับคุณ dead devil หรือจะให้ผมเรียกว่าสารวัตรเมงูเระเหมือนเดิมล่ะฮะ” โคนันเอ่ยขึ้น ทำให้คนข้างหน้าหยุดกึก “เธอพูดอะไรน่ะโคนัน ฉันแค่จะมาเดินสำรวจรอบ ๆ ซะหน่อยก็เท่านั้น” เมงูเระแก้ตัว “หยุดเถอะครับ สารวัตรผมจำเสียงคุณได้นะครับ” โคนันพูดต่อ “ถ้าเธอจะพูดอย่างงั้นล่ะก็ ฉันก็คงต้องขอถามเธอซะหน่อยล่ะว่า เธอมีหลักฐานอะไรหรือเปล่า” เมงูเระพูด + + + + + + + + + + "แม้แต่กระจกที่สะท้อนทีอย่างตรงไปตรงมา แต่ก็ไม่อาจสะท้อนตัวตนที่แท้จริงได้" ตอนจบ : คดีสุดท้ายของโคนัน “ผมไม่มีหลักฐานหรอกครับ แต่ถ้าให้พวกนั้นชี้ตัวล่ะก็ ยังไงสารวัตรก็คงหนีไม่รอด มอบตัวเถอะนะครับ” โคนันพูดต่อ “ไม่ได้หรอกนะ” เมงูเระพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าพร้อมกับหยิบปืนขึ้นมา “ชินอิจิคุง ฉันไม่อยากทำอย่างงี้เลย ไม่อยากให้เธอต้องตายด้วยน้ำมือของฉันเลย” เมงูเระพูดต่อ “ถ้าจะกรุณาผมล่ะก็ ช่วยบอกหน่อยเถอะครับว่าทำไมคุณถึงต้องทำแบบนี้ คุณสร้างองค์กรนี่ทำไมกัน” โคนันถาม “เพราะว่าฉันอยากได้เธอคืนมาน่ะสิ เธอคนนั้น คนที่ฉันเฝ้ารอมาแสนนาน” เมงูเระพูด “ใครกันครับ” โคนันถามต่อ “ลูกสาวของฉัน เมื่อหลายปีก่อน...ก่อนที่เธอจะเกิดซะอีก ตอนนั้นมิโดริ (ภรรยาสารวัตรค่ะ) เธอคลอดลูกสาวคนแรกของฉันแต่...แต่หลังจากคลอดได้ไม่กี่วันลูกสาวฉันก็ตาย ฉันเสียใจมาก ฉันอยากจะชุบชีวิตลูกสาวฉันขึ้นมา ฉันก็เลยแอบสร้างองค์กรนี้ขึ้นมาเงียบ ๆ“ เมงูเระอธิบาย “แล้วทำไมถึงต้องฆ่าคนมากมายด้วยล่ะครับ” โคนันถามต่อ “เอามาทดลองยาน่ะสิ คนพวกนั้นอยู่ไปก็ไร้ประโยชน์ เอามาลองยาซะยังจะดีกว่า” เมงูเระอธิบาย คำอธิบายนั้นทำเอาโคนันถึงกับเสียวสันหลัง “เอาละ ถึงเวลาของเธอแล้วชินอิจิคุง” เมงูเระพูดขึ้น โคนันหลับตาสนิท เขาไม่เคยคิดเลยว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นคนที่เขาไว้ใจมากคนนึง ไม่เคยคิดเลยว่าเพื่อนของพ่อจะมาฆ่าเขา ปัง เสียงปืนดังขึ้นแล้ว แต่โคนันรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองไม่เป็นอะไรเลย เมื่อเขาลืมตาขึ้นภาพตรงหน้าก็ทำให้เขาถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา หมออาราอิเดะกับเฮย์จิแล้วก็โคโกโร่กำลังจับตัวสารวัตรอยู่ ตรงหน้าเขามีร่าง ๆ หนึ่งนอนจมกองเลือด เธอถูกยิง “ไฮบาระ” โคนันตะโกน “ทำไมเธอทำอย่างงี้ล่ะ” พูดพลางก็คุกเข่าลงข้าง ๆ ร่างของเด็กสาวที่มีลมหายใจอ่อนระรวย ช้อนศีรษะเธอมาไว้บนตัก “ฉันอยากจะไถ่บาปทั้งหมดที่ฉันทำไปน่ะสิ แล้วอีกอย่างเหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือ…ฉัน…รัก…นาย” คำตอบนั้นแผ่วเบาแต่จับจิตจับใจคนฟังเหลือเกิน “เธออย่าเพิ่งพูด….” โคนันพูดยังไม่ทันจบ ไฮบาระก็ยกมือขึ้นปิดปากเขา มืออีกข้างของเธอล้วงอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า “นี่คือยา CX 800 T มันจะทำให้นายกลับไปเป็นคุโด้ ชินอิจิเหมือนเดิม” ไฮบาระพูดเสียงแผ่วเบากว่าเดิม “ทำไมเธอไม่กินล่ะ” โคนันถาม “มันมีอยู่เม็ดเดียว แล้วฉันก็กำลังจะตาย นายเอาไปเถอะ” โคนันรับยามาจากไฮบาระ ทันใดนั้นร่างกายของเด็กสาวก็หยุดการทำงาน เธอตายซะแล้ว “ไฮบาระ” โคนันตะโกนออกมาอีกครั้ง + + + + + + + + + + ณ สำนักงานนักสืบโมริ “ทำไมเธอไม่พูดกับคุโด้คุงล่ะ รัน ตอนนี้เขาก็กลับมาเป็นคนเดิมแล้วนี่นา” คาซึฮะถาม แต่ไม่มีคำตอบจากปากรัน “อ้าว เฮย์จิ คุโด้ มากันแล้วเหรอ” คาซึฮะยังพูดต่อ “เล่าให้ฟังบ้างซิ ผลการสอบปากคำน่ะ” คาซึฮะยังถามต่ออย่างสงสัย ชินอิจิเหลือบตาไปดูหน้ารันแวบนึง ตั้งแต่กลับมาจากโรงงานจนถึงวันนี้ก็สิบวันแล้ว แต่รันยังไม่พูดกับเขาเลย “ก็ไม่มีอะไรนี่ พวกนั้นก็รับสารภาพ สารวัตรก็โดนจับ ส่วนยีนก็…” เฮย์จิพูดไม่ทันจบชินอิจิก็สวนขึ้นว่า “พวกนายเล่ามาก่อนเถอะว่าตามฉันไปที่โรงงานได้ยังไง” ชินอิจิถามบ้าง “อ๋อ เรื่องนั้นน่ะเหรอ…” คาซึฮะพูดแล้วหันไปมองหน้ารัน “ผมเล่าเองก็แล้วกันครับ” หมออาราอิเดะพูด เขาเดินเข้ามาพร้อมกับใครคนนึงที่ทำเอาคาซึฮะกับรันตะลึง “ยีน” รันกับคาซึฮะพูดพร้อมกัน “ไม่ใช่หรอกครับ ชื่อจริง ๆ ของเขาคือ อากาอิ ชูอิจิ เค้าเป็นเหมือนกับผม” หมออาราอิเดะอธิบายแล้วก็เล่าว่า “คือความจริงแล้วผมเป็น FBI น่ะครับ เขาก็ด้วย” พูดแล้วก็ชี้ไปที่ยีน “เค้าปลอมตัวเข้าไปสืบเรื่ององค์กรน่ะครับ เพราะทาง FBI สืบได้ว่าที่ญี่ปุ่นมีองค์กรลึกลับที่จัดตั้งขึ้นเพื่อฆ่าและชุบชีวิตคนน่ะครับ” พูดจบแล้วก็หันมาทางชินอิจิ “สำหรับเรื่องที่ตามไปที่โรงงาน คือ ตอนนั้นผมอยู่ที่ร้านกาแฟนั้นพอดี เห็นคุณโดนอาจารย์โจดี้ เอ๊ย คริส เขาสะกดรอยตามคุณอยู่ กำลังจะตามไปก็พอดีเจอกับพวกคุณโมริ พอบอกทางพวกเค้าเสร็จผมก็รีบมาหาคุณรันทันที….อย่างที่บอกแหละครับ ชูอิจิปลอมตัวเป็นยีนแฝงตัวอยู่ในองค์กร พอเขารู้ว่าตัวจริงของโคนันคือใคร…ผมก็เลยได้รู้ด้วยว่าโคนันก็คือคุโด้ ชินอิจิ…ผมก็เลยคิดว่าน่าจะมาบอกรัน แต่นึกไม่ถึงว่าเธอจะรู้อยู่แล้ว” อาราอิเดะเล่าถึงตรงนี้รันก็ลุกขึ้นเดินออกไป แต่ชินอิจิยังไม่สนใจเขาขอให้หมออาราอิเดะเล่าต่อ “จากนั้นรันก็โทรไปหาคุณคาซึฮะ จากนั้นคุณคาซึฮะกับเฮจิย์ก็มา เราจึงตัดสินใจโทรหาหมวดซาโต้กับหมวดทาคางิ จากนั้นผมก็ทำทางทุกคนไปที่โรงงานตามทางที่ชูอิจิเคยบอกเอาไว้” อาราอิเดะเล่าต่อ “เดี๋ยวนะครับ ถ้าอย่างงั้นก็แสดงว่าคุณรู้แล้วน่ะซิว่าสารวัตรเป็นหัวหน้าแก๊งค์ ไม่งั้นคุณคงโทรไปหาเขา” ชินอิจิถาม “ไม่รู้หรอกครับ เราแค่สงสัยเท่านั้นล่ะครับ” “เพราะผมไม่ดีเอง ผมไม่แน่ใจว่าเขาเป็นสารวัตรหรือว่ารองสารวัตร” ยีนหรือชูอิจิที่นิ่งอยู่นานเอ่ยขึ้น “แล้วไฮบาระ รู้รึเปล่าว่าใครเป็นหัวหน้าแก๊งค์” เฮย์จิถามต่อ “ไม่รู้หรอก เธอทำงานอยู่แต่ในห้องแลป” พอพูดถึงไฮบาระ ชินอิจิสังเกตเห็นว่าชูอิจิมีน้ำตาเอ่อขึ้นมานิด ๆ เขาคิดว่าชูอิจิคงจะชอบไฮบาระ เลยเปลี่ยนเรื่องพูด “นายนานาตะคือใครกันแน่” ชินอิจิถาม “มันเป็นโจรปล้นธนาคารเมื่อหลายปีก่อนชื่อจริง ๆ ของมันก็คือ คาโน ไซโซ คนที่ใคร ๆ ก็คิดว่าตายไปแล้ว มันมีความสามารถเรื่องกลไกมาก นายเมงูเระเลยจ้างมาสร้างห้องใต้ดิน” ชูอิจิอธิบาย “แล้วเรื่องคนทรยศขององค์กรล่ะครับ” ชินอิจิถามเรื่องที่เขาได้ยินที่โรงงาน “ฉันปล่อยข่าวนี้ออกไปเองแหละ ที่จริงไม่มีคนทรยศหรอก ฉันแค่อยากให้พวกมันระแวงกันเอง” ชูอิจิอธิบายอีก “แล้วทำถึงลงไปอยู่ห้องใต้ดินกันล่ะ” เฮย์จิถามบ้าง “เพราะฉันคิดว่าเชอร์รี่คงจะทรยศองค์กรเข้าแล้วจริง ๆ และคิดว่าเธออาจจะพาตำรวจมาที่นี่ ฉันเลยคิดว่าถ้าอยู่ข้างบนล่ะก็อาจมีใครในองค์กรหนีออกไปได้ ฉันเลยหลอกต้อนทุกคนลงไปในห้องใต้ดิน” ชูอิจิเล่าอีกแล้วย้อนถามว่า “คุณรู้รหัสผ่านห้องใต้ดินได้ยังไง” “พ่อผมเคยบอกว่าเมื่อก่อนสารวัตรชอบพูดคำนี้บ่อย ๆ น่ะครับ” ชินอิจิอธิบาย เมื่อหมดเรื่องที่สงสัยแล้วชินอิจิก็ขอตัวมาง้อรัน + + + + + + + + + + “รัน ที่แท้เธอก็รู้อยู่แล้วว่าฉันคือ…” ชินอิจิพูด “ฉันไม่โง่นี่….แต่ที่ฉันไม่พูดก็เพราะว่าฉัน…ฉันรออยู่…รอให้นายบอกความจริงทั้งหมดจากปากนาย…แต่….แต่นายก็ไม่เคยพูดเลย…ไม่เคยเลย” รันพูดพลางเอามือป้ายน้ำตาที่กำลังไหลอยู่ “รัน…เธอรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่” ชินอิจิถาม “มันไม่สำคัญหรอก มันสำคัญตรงที่ทำไมนายไม่ยอมบอกฉันตะหากล่ะ” พูดพลางน้ำตาก็ไหลออกมาอีกคราวนี้เธอไม่สนใจจะเช็ดมันแล้ว “ก็เพราะว่าฉันกลัวนะสิ กลัวว่าเธอกับใครต่อใครจะตกอยู่ในอันตราย…ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังเธอเลยนะรัน…ฉัน…ฉัน…ฉันรักเธอนะรัน” ในที่สุดชินอิจิก็พูดคำว่ารักออกมาจนได้ ทำเอารันถึงกับหน้าแดง “จริงเหรอ” คนหน้าแดงถามขึ้น “จริงซิแล้วเธอล่ะ รักฉันบ้างรึเปล่า” ชินอิจิถามบ้าง “อือ” รันตอบแค่นี้แต่ก็ทำเอาชินอิจิหน้าแดงไปเลยเหมือนกัน + + + + + + + + + + “รัน…พ่อมีข่าวดีมาบอก” โคโกโร่พูดขึ้นในเย็นวันหนึ่ง “อะไรค่ะพ่อ” รันถาม “พ่อกับแม่ดีกันแล้วนะ” โคโกโร่บอก หน้าของเขาเป็นสีแดงหน่อย ๆ “จริงเหรอค่ะ” รันถาม โคโกโร่พยักหน้าช้า ๆ ทันใดนั้นเอริแม่ของรันก็หอบกระเป๋าใบใหญ่เข้ามาในบ้าน + + + + + + + + + + “เร็ว ๆ เข้าซิยัยคาซึฮะ” เฮย์จิเร่ง “จะรีบอะไรนักหนานะ” คาซึฮะว่าพลางถลึงตาใส่เฮย์จิ “เฮ้ เฮย์จิทำไมช้าจัง” ชินอิจิถามเขาเดินเข้ามาพร้อมกับรัน “ก็ยัยคาซึฮะน่ะสิ มัวแต่เลือกดอกไม้อยู่นั่นล่ะ” “อ้าว ก็วันนี้เป็นวันแต่งงานของหมวดซาโต้กับหมวดทาคางินิ ฉันก็ต้องเลือกดอกไม้สวย ๆ หน่อยล่ะ แต่ว่าวันนี้มีแขกมาเยอะจังเลยนะ” คาซึฮะพูดพลางกวาดตามองไปรอบ ๆ ด้าน “ก็หมวดซาโต้น่ะ เขารู้จักคนเยอะ” เสียงอธิบายเป็นของโซโนโกะที่เดินเข้ามาพร้อมกับเคียวโกขุ “ขนาดพ่อกับแม่หมอนี่ยังมาเลย” รันพูดแล้วชี้ไปที่ชินอิจิ “สองคนนั่นน่ะ เขาจะกลับมาอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วล่ะ” ชินอิจิบอก “จริงเหรอ ดีจังนะ” รันว่า “เอาล่ะ ฉันว่าเราไปอวยพรสองหมวดกันดีกว่านะ” คาซึฮะพูด แล้วทั้งหกคนก็เดินเข้าไปอวยพรหมวดซาโต้กับหมวดทาคางิ

ป้ายกำกับ:

ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

"จำเป็นด้วยเหรอที่ต้องมีเหตุผล สาเหตุที่คนฆ่าคนคืออะไรนั้นยังไม่รู้เลย แล้วเหตุผลที่คนช่วยคน จะมีคำอธิบายตามหลักเหตุและผลได้ยังไง"
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!!
<<อ่านเรื่องย่อ>>

ป้ายกำกับ:

วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2550

ไฮบาระ ไอ

ไฮบาระ ไอ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางมาจาก มิยาโนะ ชิโฮ)
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา

ไฮบาระ ไอ (灰原哀, ไฮบะระ อะอิ) เป็นตัวละครจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน
ตามที่มีการระบุในเนื้อเรื่อง ชื่อ "ไฮบาระ ไอ" มาจากชื่อนักสืบหญิงในนิยาย โดยที่เธอและดร.อากาสะเป็นคนช่วยกันตั้งขึ้น
ไฮ(灰-สีเทา)มาจากคลอเดเลีย เกรย์
ไอ (哀)มาจากชื่อนักสืบV.I.Warshawski โดยคำว่า "ไอ" ในภาษาญี่ปุ่น มีวิธีเขียนได้สองแบบ แบบหนึ่งมีความหมายว่า ความเสียใจ (哀) และอีกแบบหนึ่งมีความหมายว่า ความรัก (愛) แต่ ไฮบาระ ไอ เลือกที่จะใช้ตัวอักษรที่หมายถึงความเสียใจ

[แก้] เนื้อเรื่อง
ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้ มีการกล่าวถึง เนื้อเรื่อง หรือฉากจบ
ไฮบาระ ไอ ตัวจริงคือ "มิยาโนะ ชิโฮ" หรือโค้ดเนม "sherry" เป็นคนที่ดูเงียบขรึม เป็นผู้ผลิตยา aptx4869 เกิดไม่ค้นคว้าเรื่องยาต่อเนื่องจากองค์กรนำยาที่เธอผลิต ไปใช้กับคนโดยไม่บอก และสาเหตุที่สำคัญคือพี่สาวถูกคนในองค์กรฆ่า เธอจึงถูกขังในห้องแก๊ส ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจกินยา aptx4869 เพื่อฆ่าตัวตาย แต่ร่างกายกลับกลายเป็นเด็กจึงหนีออกมา และได้รับการช่วยเหลือจาก ดร. อากาสะ ฮิโรชิ
พ่อแม่ของเธอเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกองค์กรชุดดำ แต่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในการทดลองตั้งแต่เธอยังแบเบาะ เธอถูกส่งไปเรียนที่อเมริกาตามคำสั่งขององค์กรตั้งแต่ยังเล็กแต่พี่สาว(มิยาโนะ อาเคมิ)ยังอยู่ที่ญี่ปุ่นตามเดิม
พ่อของเธอ มิยาโนะ อัทสึชิ เป็นนักวิทยาศาสตร์ขององค์กรที่เคยถูกขับออกจากวงการวิทยาศาสตร์เนื่องจากทฤษฎีของเขาและมีฉายาว่าแมดไซเอนทิส ส่วนแม่ของเธอ มิยาโนะ เอเลน่า เป็นคนอังกฤษที่มาเรียนต่อในญี่ปุ่น เป็นคนเงียบขรึมจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ในใจ แม่ของเขามีฉายาว่าเฮล แองเจล(นางฟ้าจากนรก)ในตอนนี้เธอเองก็เริ่มมีความรู้สึกดีๆให้กับคุโด้ ชินอิจิ โดยที่ตัวชินอิจินั้นเองก็ยังไม่รู้ถึงความในใจของเธอ

[แก้] ข้อมูลส่วนตัว
โค้ดเนม: Sherry
ชื่อจริง: มิยาโนะ ชิโฮ
ปรากฏตัวครั้งแรก ไฟล์ 179(เล่ม18) นักเรียนใหม่
อายุ: 8 ปี(อายุจริง 18 ปี)
ที่อยู่: บ้านเลขที่ 22 หมู่ 2 เบกะซิตี้ (บ้านดร.อากาสะ)
ครอบครัว
พ่อ มิยาโนะ อัทสึชิ(宮野 厚司)
แม่ มิยาโนะ เอเลน่า (宮野 エレーナー)
พี่สาว มิยาโนะ อาเคมิ (เสียชิวิตเเล้วโดนองค์กรที่เธออยู่ฆ่าตาย)(宮野 明美)(คดีชิงเงินพันล้าน)

ป้ายกำกับ:

เอโดงาวะ โคนัน

โดกาวะ โคนัน (「江戸川 コナン」, Edogawa Konan, 江戸川 コナン?) ตัวละครจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน
เอโดกาวะ โคนัน เป็นร่างที่หดตัวเล็กลงของคุโด้ ชินอิจิ วันหนึ่งได้ไปเดทกับโมริ รันที่สวนสนุก tropical land และได้ไขคดีการฆาตกรรมบนรถไฟเหาะ ระหว่างทางกลับชินอิจิได้ไปเห็นชายชุดดำเจรจาแลกของต้องสงสัยแต่หารู้ไม่ว่ามีคนขององค์กรแอบอยู่ด้านหลังอยู่จึงถูกทำร้ายและถูกจับกินยา aptx4869 เพื่อฆ่าเค้า แต่ยากลับผิดพลาดเนื่องจากยังอยู่ในขั้นทดลองทำให้ร่างกายหดเล็กลงกลายเป็นเด็กอีกครั้ง เพื่อจะสืบหาความจริงว่าคนพวกนั้นเป็นใคร ดร.อากาสะจึงฝากให้ โมริ โคโกโร่ พ่อของรันเลี้ยง เพื่อจะติดตามหาชายชุดดำ แต่เนื่องจากเขาเป็นเด็ก จึงต้องอาศัยเครื่องมือจาก ดร. อากาสะ ใช้โคโกโร่เป็นทางผ่านของการคลี่คลายคดี เป็นนักเรียนชั้นประถม 1 ของโรงเรียนประถมเทตัน โคนันเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มนักสืบเยาวชน โดยภาพรวมที่คนอื่นเห็นแล้วโคนันจะเป็นเด็กที่ฉลาดมีไหวพริบและมี ความคิดเป็นผู้ใหญ่ คงจะมีแต่โคโกโร่ที่เห็นว่าโคนันเป็นตัวเกะกะ และในตอนนี้ เขาก็กำลังตามหาข้อมูลของกลุ่มชายชุดดำอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อให้กลับมาเป็น...คุโด้ ชินอิจิอีกครั้งพ่อแม่ของชินอิจิคือคุโด้ ยูซากุ ฟูจิมิเนะ ยูกิโกะ มีคนที่รักชื่อรัน ต่อมาได้มีเด็กคนหนึ่งที่ชื่อ ไฮบาระ ไอ หรืออีกนามหนึ่งคือ มิยาโนะ ชิโฮะ โค้ดเนม เชอร์รี่ ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่รู้เบื้องหลังของโคนัน และมีนักสืบจากแดนตะวันตกชื่อฮัตโตริ เฮย์จิ ต้องการแข่งขันการสืบคดีกับคุโด้ ชินอิจิ เค้าเป็นอีกคนหนึ่งที่รู้ความจริงเกี่ยวกับโคนัน มีคนที่แอบหลงรักชื่อ โทโมยะ คาซึฮะกรมตำรวจก็มีคนที่รับหน้าที่ที่ต้องไปเจอกับโมริ โคโกโร่ บ่อย ๆคือ สารวัตร เมงูเระ จูโซซึ่งมีลูกน้องมือขวาชื่อ หมวดทาคางิ วาตารุและมีลูกน้องที่สวยและมีเสน่ห์อีกคนชื่อ หมวดซาโต้ มิวาโกะทั้ง 2 แอบปิ๊งกันเงียบ ๆ (คนขององกรลับในตอนนี้ที่เผยตัวแล้วก็มี ยีน ว็อดก้า เบลมอท ปิสโก้ คีร์ ส่วนของ FBI ก็มีคุณครูโจดี้ที่มักเรียกโคนันว่า cool kid เจมส์ และชายอีกคนที่ใช้ชื่อว่า อากาอิ ชูอิจิ )
คำคม: ความจริง มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!!!
ดึงข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B0_%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%99".

ป้ายกำกับ:

โมริ รัน

โมริ รัน (毛利 蘭, โมริ รัน) ตัวละครจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ในการ์ตูนฉบับภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า ราเชล มัวร์ (Rachel Moore)
ชื่อของ โมริ รัน มาจากชื่อนักแต่งนิยายฝรั่งเศส โมรีซ เลอ-บล็อง (Maurice Leblanc) ผู้แต่งเรื่อง อาร์แซน ลูแปง (Arsène Lupin)
รันเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับชินอิจิรันเล่นกับชินอิจิตลอดมาจนเกิดมีหัวใจดวงน้อยให้กับชินอิจิ และเป็นลูกสาวของนักสืบโมริ โคโกโร่ และทนาย คิซากิ เอริรันมีทั้งความเข้มแข็งและอ่อนโยนเห็นภายนอกอาจดูแข็งแกร่งแต่ภายในแล้วเป็นคนชอบร้องไห้ความแข่งแกร่งเกิดจาก โดยรันเก่งคาราเต้มาก ตั้งแต่พ่อแม่แยกทางกันเธอก็คอยดูแลโคโกโร่และก็มีการติดต่อกับคิซากิบ้าง พยายามจะให้ ทั้งสองคนคืนดีกันแต่ก็ ไม่สำเร็จ และรันก็เป็นคนที่คอยดูแลโคนัน หลังจากที่ชินอิจิหายสาบสูญ และเด็กน้อยที่ชื่อ โคนัน ปรากฏตัว หลายๆครั้งที่ รันเคยสงสัยว่าแท้จริง โคนันคือชินอิจิ แต่ชินอิจิพยายามที่จะพิสูจน์ตัวเองหลายครั้งว่า ไม่ใช่โคนันเพื่อความปลอดภัยของรัน จากการถูกตามล่าของพากชายชุดดำเพราะถ้ารันรู้รักก็จะถูกพวกชายชุดดำฆ่า รันแอบชอบชินอิจิและชินอิจิก็ชอบรันแต่ทั้งสองคนไม่กล้าบอกกัน

ป้ายกำกับ:

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2550

เซอร์อาร์เทอร์ อิกเนเซียส โคนัน ดอยล์

เซอร์อาร์เทอร์ อิกเนเชียส โคนัน ดอยล์ (Arthur Ignatius Conan Doyle) เกิดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1859 ในเมืองเอดินบะระ แคว้นสกอตแลนด์ แห่งสหราชอาณาจักร และถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1930 เป็นนักเขียนเรื่องสั้น นวนิยาย ประวัติศาสตร์ และแพทย์คนสำคัญของสกอตแลนด์ แต่ผลงานที่สร้างชื่อเสียงมากที่สุด คือเรื่องสั้นแนวสืบสวนชุด "เชอร์ล็อก โฮลมส์"
โคนัน ดอยล์ได้รับการศึกษาจากคณะเยซูอิต ที่วิทยาลัยสโตนีเฮิสต์ และจบการแพทย์จากมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ เมื่อปี ค.ศ. 1881 แล้วประกอบอาชีพแพทย์ตามที่ได้ร่ำเรียนมา ขณะเดียวกันก็ได้เริ่มงานเขียนเล็กๆ น้อยๆ อย่างสม่ำเสมอ เรื่องสั้นเรื่องแรกของเขาได้รับตีพิมพ์ในวารสารแชมเบอร์ (Chambers) เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1879 และเขียนสารคดีเรื่องแรก ในวารสารการแพทย์ " British medical journal" ในเดือนเดียวกัน
เรื่องที่ไม่ได้ตีพิมพ์เรื่องหนึ่งในช่วงนั้น แสดงถึงการทดลองด้วยคุณลักษณะ 2 อย่าง คือ การใช้ตัวเอกที่มีความรู้ในศาสตร์ลับ และคนเล่าเรื่องที่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านใด แต่พัฒนาการของแนวคิดดังกล่าวก้าวถึงจุดสูงสุดเมื่อปี ค.ศ. 1886 และสร้างสีสันมีชีวิตชีวามาก จากเรื่อง "A Study in scarlet" เป็นเรื่องของนักสืบชื่อเชอร์ล็อก โฮลมส์ และเพื่อนชื่อหมอวัตสัน ด้วยการสร้างบทสนทนาที่สนุกสนาน น่าติดตาม ทำให้เรื่องของเขาเป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวาง และตีพิมพ์เป็นเรื่องสั้นกว่า 56 เรื่อง และนวนิยาย 4 เรื่อง โดยได้รับแนวคิดจาก "Socrates and his disciples" ของเพลโต และ "Don Quixote" ของเซอร์บันเตส เป็นต้น
โคนัน ดอยล์ยังถือว่าเป็นหนี้ความรู้ของเอดการ์ แอลลัน โพ (Edgar Allan Poe) บิดาแห่งนวนิยายสืบสวน แต่การสร้างสรรค์เรื่องของโคนัน ดอยล์ทำให้นวนิยายชุดเชอร์ล็อก โฮล์มส์มีความแตกต่างจากนิยายสืบสวนทั่วไป และกลายเป็นนิยายสืบสวนเรื่องยิ่งใหญ่ในชั่วเวลาไม่นาน เขาให้เขียนให้โฮล์มส์เสียชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1893 เพื่อจบนิยายชุดนี้ แต่ต้องแต่งเรื่องให้โฮล์มส์กลับมาอีกครั้ง ตามคำเรียกร้องของบรรดานักอ่านของเขา
เรื่องยาวของโคนัน ดอยล์ได้แก่เรื่องเล่าสมัยกลาง เกี่ยวกับทหารในคริสต์ศตวรรษที่ 14 การปฏิวัติรัฐประหารในประเทศต่างๆ แต่ดูเหมือนเรื่องสั้นของเขาจะเป็นที่รู้จักและนิยมกันมากกว่า งานของเขายังมีเรื่องราวการผจญภัยกึ่งนิยายวิทยาศาสตร์ อย่างเรื่องสั้นชุด "Professor Challenger" เป็นต้น
โคนัน ดอยล์นั้นได้ทำหน้าที่เป็นแพทย์เรื่อยมาตั้งแต่จบการศึกษา และเลิกอาชีพนี้ไปทำงานด้านวรรณกรรมเมื่อปี ค.ศ. 1891 จากนั้นย้ายไปอยู่ที่ลอนดอน และต่อมาได้ย้ายไปที่เมืองซัสเซ็กซ์ และเอสเซ็กซ์
เมื่อ ปี ค.ศ. 1902 โคนัน ดอยล์ได้รับพระราชทานยศอัศวิน อันเนื่องมาจากการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ โดยเฉพาะในสงครามแอฟริกา
หลังจากบุตรชายของเขาเสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 (ซึ่งเขาได้เขียนประวัติเหตุการณ์ต่างๆ เอาไว้) เขาเริ่มสนใจเรื่องธรรมะ ซึ่งมีผลต่อเรื่องสยองขวัญของเขาด้วย โคนัน ดอยล์เสียชีวิตเมื่อปี 1930 อายุได้ 71 ปี ผ่านการสมรส 2 ครั้ง และมีบุตร 5 คน
คำคม : It is a great thing to start life with a small number of really good books which are your very own. (การเริ่มต้นชีวิตโดยมีหนังสือที่ดีจริงๆ ไม่กี่เล่มเป็นของตัวเองนั้นเป็นเรื่องเยี่ยมยอด)

[แก้] ผลงานสำคัญ
A Study in Scarlet (1887)
The Adventures of Sherlock Holmes (1892)
The Case Book of Sherlock Holmes (1927)
The Adventure of the Speckled Band (เรื่องสั้น ไม่ทราบปีที่พิมพ์)
The Lost World (1912)
The Land of Mists (1926)
The Disintegration Machine (1927)
When the World Screamed (1928)
The White Company (1891)
Micah Clarke (1888)
The Refugees (1893)
Uncle Bernac (1897)
Sir Nigel (1906)

ป้ายกำกับ:

ไมครอฟต์

ไมครอฟต์ ตัวละครในนวนิยายสืบสวนสอบสวนเรื่องเชอร์ล็อค โฮล์มส เป็นพี่ชายของเชอร์ล็อค โฮล์มส เขาเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาล เขาเป็นคนที่ฉลาด บางทีอาจฉลาดกว่าโฮล์มสด้วยซ้ำ แต่ว่าเขาเป็นคนเงียบ และเข้ากับผู้อื่นไม่ค่อยได้ เขาจึงเป็นนักสืบไม่ได้

ป้ายกำกับ:

เชอร์ ล็อกโฮม

เชอร์ล็อก โฮล์มส์ (Sherlock Holmes) ตัวละครนักสืบที่มีชื่อเสียงโด่งดัง จากผลงานการแต่งของเซอร์อาเธอร์ โคแนน ดอยล์ ซึ่งถือเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับโคนัน ดอยล์ เลยทีเดียว โดยมีคู่หูที่ร่วมการสืบสวนคือ หมอวัตสัน ในสมัยนั้น ทุกคนก็ต่างรู้จัก เซอร์อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ และเชอร์ล็อก โฮล์มส์ จนเป็นที่ติดปาก คุ้นหูของนักอ่านหนอนหนังสือและบุคคลทั่วไปเลยทีเดียว และเขามีพี่ชาย ชื่อ ไมครอฟต์ที่คอยช่วยเหลือเขาในบางคดีเขามีมันสมองพอๆกะโฮล์มส์เเต่ใช้กันคนละด้าน
หมอวัตสัน เป็นคู่หูของเชอร์ล็อก โฮล์มส์ และเป็นหมอชันสูตรศพด้วย ส่วนใหญ่เขาจะชอบใช้ปืนพกชนิดรีโวลเวอร์ ส่วนเชอร์ล็อก โฮล์มส์ จะใช้วิชาดาบเขามีความรู้รอบตัวในหลายๆด้านทั้ง เคมี ฟิสิกเเละพวกพืชตระกูลมีพิษต่างๆเเต่เขาไม่รู้เรื่องเลยเกี่ยวกับพวกดาราศาสตร์ และเขายังเก่งเรื่องเล่นไวโอลิน เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ชอบเรียกหมอวัตสัน เวลาทำคดีต่างๆ บางทีเวลา เชอร์ล็อก โฮล์มส์ วางแผนหมอวัตสันยังไม่รู้เลยเขามีอารมณ์แปลกๆบางครั้งก็เศร้าซึม พูดน้อย บางครั้งก็ร่าเริง เขามีศัตรูตัวฉกาจชื่อ ศาสตราจารย์เจมส์ มอริอาร์ตี้ ศาสตราจารย์ผู้มีมันสมองปราดเปรื่องในด้านอาชญากรรมอีกทั้งเขายังเป็นตัวการเบื้องหลังในบางคดีที่เกิดขึ้นอีกด้วย คำพูดที่ติดปากกันดีคือ "When you have eliminated the impossible,whatever remains,however improbable,must be the truth. ถ้าเราตัดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ทั้งหมดออกไป สิ่งที่เหลืออยู่ ไม่ว่ามันจะดูเหลือเชื่อเพียงใด แต่มันก็เป็นความจริง"

ป้ายกำกับ:

นักสืบ

นักสืบ เป็นผู้สอดแนม มักทำงานร่วมกับตำรวจ หรือ ส่วนบุคคลอื่นๆ ในภาษาอังกฤษอาจเรียกอื่นๆ ได้อีกว่า Private investigators (P.I. หรือ "private eyes") ในอีกนัยหนึ่ง นักสืบ มักมีบทบาทในนวนิยายต่างๆ เป็นผู้ไขคดีฆาตกรรม และ คดีต่างๆ มากมาย

[แก้] ตัวละครนักสืบ
เชอร์ล็อก โฮล์มส นักสืบจากนวนิยายของ อาร์เทอร์ โคนัน ดอยล์
เฮอร์คูล ปัวโรต์ และ มิสเมเปิล จากผู้เขียนอกาทา คริสตี
เอเดรียน มังก์ นักสืบจากรายการโทรทัศน์ของสถานียูเอสเอเน็ตเวิร์ก
เอโดกาวะ โคนัน นักสืบจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน การ์ตูนญี่ปุ่นเกี่ยวกับนักสืบ
คินดะอิจิ นักสืบจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องคินดะอิจิกับคดีฆาตรกรรมปริศนา
ทองอิน นักสืบจากวรรณคดีไทยเรื่อง นิทานทองอิน โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นผู้ประพันธ์ ใช้นามปากกว่า นายแก้ว นายขวัญ
พุ่มรัก พานสิงห์ นักสืบจากนิยายเรื่อง ฆาตกรรมกลางทะเล โดย วินทร์ เลียววาริณ

ป้ายกำกับ:

คุโด้ ชินอิจิ

คุโด้ ชินอิจิ (「工藤 新一」, Kudō Shin'ichi, 工藤 新一?) ตัวละครจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ในฉบับภาษาอังกฤษหรือ Case Closed ใช้ชื่อว่า จิมมี คุโด้ (Jimmy Kudo)
ชินอิจิเป็นนักเรียนชั้นปีที่ 2 ห้อง 2B โรงเรียนมัธยมปลายเทย์ตันอายุ 17 ปี เป็นลูกชายของคุโด้ ยูซากุ และคุโด้ (ฟุจิมิเนะ) ยูกิโกะ เกิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม อาศัยอยู่ที่เมืองเบกะ หมู่ 2/21 คลั่งไคล้เชอร์ล็อก โฮล์มส์ตามคุณพ่ออย่างมาก ถ้าเป็นเรื่อง เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ชินอิจิแทบจะรอบรู้หมดทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นชนิดของไวโอลิน หรือคดีต่างๆ
ชินอิจิพ่อแม่ไปอยู่ที่ ลอส แองเจลิส ส่วนเขาก็อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นคนเดียวตั้งแต่อายุ 14 ปี เพราะได้รับอิทธิพลจากที่มีพ่อเป็นนักเขียนนิยายสืบสวน ทำให้เขามีบทบาทในฐานะนักสืบ ม.ปลาย ชินอิจิเป็นคนฉลาด มีไหวพริบ ช่างสังเกต มีความมั่นใจในตนเอง และด้วยความที่ชินอิจิเป็นคนที่ค่อนข้างจะติดเก๊ก ทำให้เขาเนื้อหอมมาก มีสาวๆมาคลั่งไคล้มากมาย เขาแอบชอบโมริ รัน ลูกสาวของ โมริ โคโกโร่
เขามีความสามารถพิเศษหลายอย่างเช่น เล่นฟุตบอล(ที่เก่งระดับแข่งทีมชาติสบายๆ) ขับเฮลิคอปเตอร์ ขับรถ ขับเรือ ยิงปืน แต่ชินอิจิต้องการฝึกเพื่อเป็นทักษะของนักสืบเท่านั้น ชินอิจิไม่ชอบลูกเกด แต่ชอบเลมอนพายมาก
แต่ชินอิจิก็มีเรื่องที่ไม่ถนัดเช่นกันคือเรื่องดนตรี.. การเล่นดนตรีกับการร้องเพลงนี่ไม่เป็นสับปะรดเลย! แต่ดูเหมือนเขาก็แอบชอบร้องเพลงเหมือนกันนะ..
สิ่งที่ชินอิจิมีมากเกินไปคือความอยากรู้อยากเห็น และ วันหนึ่ง คุโด้ ชินอิจิ สัญญากับ โมริ รันว่าจะพารันไป Tropicalland เมื่อไปถึงจึงมีเหตุการไม่คาดฝัน ชินอิจิ เข้าไปพัวพันกับ องกรชุดดำ และโดนจิน(Gin)หนึ่งในองค์กรชุดดำใช้ไม้ตีหัวของเขา จนล้มลงจึงกรอกยาพิษที่คิดค้นมาใหม่ที่ชื่อว่า APTX4869 (อาโพท็อกซิน 4869) เข้าปากของ ชินอิจิโดยหวังจะฆ่าให้ตาย แต่ยาพิษนั้นกลับส่งผลให้ชินอิจิกลายเป็นเด็ก เขาได้ใช้ชื่อใหม่ว่า เอโดคาวะ โคนัน
โดยเอโดคาวะ มาจาก เอโดคาวะ รัมโป ตัวละครหนึ่งในนิยายนักสืบชื่อดัง และโคนัน มาจาก เซอร์ อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ ผู้แต่งเรื่องเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ซึ่งชินอิจิคิดได้สดๆ ตอนที่รันถามชื่อของเขาในบ้านชินอิจิ และในเมื่อเขาคิดชื่อใหม่ไม่ทัน หนังสือนิยายนักสืบด้านหลังบนตู้หนังสือก็เป็นตัวช่วยได้อย่างดี
ชินอิจิในชื่อใหม่ว่า เอโดคาวะ โคนัน จึงต้องคอยช่วยเหลือโมริ โคโกโร่ นักสืบไม่เอาถ่านพ่อของรันอย่างลับๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลขององค์กรชุดดำที่ทำให้เขากลายเป็นเด็ก จนกลายเป็นว่าโมริ โคโกโร่ได้กลายเป็นนักสืบดัง ส่วนโคนันก็ต้องคอยหลบซ่อนและติดตามคดีจากองค์กรชุดดำต่อไป...

จอมโจรอัจฉริยะ

จอมโจรอัจฉริยะ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
จอมโจรอัจฉริยะ เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นแต่งโดย โกโช อาโอยาม่า จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ โซกาคุคัง (ญี่ปุ่น) และ วิบูลย์กิจ (ไทย) โดยตีพิมพ์ออกมา 3 เล่ม แล้วหยุดอยู่ที่เล่ม 3 ไม่จบบริบูรณ์ ปัจจุบันเล่ม 4 พึ่งออกมาที่ญี่ปุ่นหลังจากหายจากแผงหนังสือไปเป็นเวลาเกือบสิบสองปี
คุโรบะ ไคโตะ เด็กม.ปลาย สานต่อความฝันของพ่อด้วยการปลอมตัวเป็นจอมโจรคิด ผู้มีบทบาทในการรักษาความยุติธรรมและความสงบสุข แล้วคุณจะต้องหลงไหลไปกับฝีมือที่ยอดเยี่ยมของไคโตะ

[แก้] ตัวละครหลัก
คุโรบะ ไคโตะ (หรือจอมโจรคิด)
นาคาโมริ อาโอโกะ
สารวัตรนาคาโมริ กินโซ

[แก้] เกร็ดน่ารู้
ระหว่างที่หยุดเขียน จอมโจรอัจฉริยะ ไปนั้น จอมโจรคิด ยังรับเชิญไปออกการ์ตูนเรื่องอื่นของ โกโช อาโอยาม่า เช่น ไยบะ และยอดนักสืบจิ๋วโคนัน จนกลายเป็นตัวละครอีกตัวหนึ่งของเรื่องนั้น

ป้ายกำกับ:

โกโช อาโอยาม่า

โกโช อาโอยาม่า (「青山 剛昌」, Aoyama Gōshō, – อะโอะยะมะ โกโช?)
ชื่อจริงนามสกุลจริง: โยชิมาสะ อาโอยาม่า
สถานะ: สมรสแล้ว (วันที่ 5 พ.ค. 2005) สมรสกับ อิซึมิ อาราอิ (มินามิ ทาคายาม่า สมาชิกวง TWO-MIX)
เกิด: วันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ.1963 เมืองไดเออิ จังหวัดทตโตริ ประเทศญี่ปุ่น
กรุ๊ปเลือด: B
สิ่งที่ชอบ: นวนิยายนักสืบ, ฟุตบอล, เบสบอล(ทีมไจแอนท์), เคนโด้, ซามูไรเรื่องนานะจินซามูไร, ซากุระซันจูโร่(มีกล่าวในโคนันเล่มที่33) ฯลฯ
อาหารที่ชอบ: ข้าวราดแกงกระหรี่ โกโช อาโอยาม่า (「青山 剛昌」, Aoyama Gōshō, – อะโอะยะมะ โกโช?)
ชื่อจริงนามสกุลจริง: โยชิมาสะ อาโอยาม่า
สถานะ: สมรสแล้ว (วันที่ 5 พ.ค. 2005) สมรสกับ อิซึมิ อาราอิ (มินามิ ทาคายาม่า สมาชิกวง TWO-MIX)
เกิด: วันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ.1963 เมืองไดเออิ จังหวัดทตโตริ ประเทศญี่ปุ่น
กรุ๊ปเลือด: B
สิ่งที่ชอบ: นวนิยายนักสืบ, ฟุตบอล, เบสบอล(ทีมไจแอนท์), เคนโด้, ซามูไรเรื่องนานะจินซามูไร, ซากุระซันจูโร่(มีกล่าวในโคนันเล่มที่33) ฯลฯ
อาหารที่ชอบ: ข้าวราดแกงกระหรี่
ของกินที่เกลียด: ลูกเกด
พี่น้อง: เป็นผู้ชาย 4 คน คนที่1 เป็นช่างเทคนิคในโรงไฟฟ้า, คนที่2 โกโช อาโอยาม่า, คนที่3 รับช่วงต่อกิจการอู่ซ่อมรถ, คนที่ 4 เป็นหมอ
คุณพ่อคุณแม่: ทั้งคู่เกลียดการ์ตูนมากๆ ถ้าเห็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับการ์ตูนจะทำลายหมด (ตอนนี้คงเปิดใจบ้างแล้ว)
วัยเด็ก: โกโช อาโอยาม่า ชอบเล่นเป็นนักสืบและมีกลุ่มเพื่อนที่เล่นที่เล่นเป็นนักสืบด้วยกัน ช่วยกันคิดทริกต่างๆ มากมาย เวลาไปร้านหนังสือก็จะกวาดสายตาหาคำว่า “โฮมส์” หรือไม่ก็ “ยอดนักสืบ” อยู่เสมอ และเริ่มชื่นชอบเกี่ยวกับนักสืบมากขึ้นก็เมื่ออ่าน เชอล็อค โฮมส์ ตอนงานวิจัยสีเลือด (A Study in Scarlet) ซึ่งเป็นตอนแรกของโฮมส์ เคยชนะการประกวดภาพตอน ป.1 ชื่อภาพ “Yukiai War” ได้โชว์ที่ห้างสรรพสินค้า Tottori Daimaru
การศึกษา: โรงเรียนมัธยมปลายในยูระ, มหาวิทยลัยนิปปอน คณะศิลปกรรมศาสตร์

หน้าปกจอมโจรคิด เป็นการ์ตูนรับเชิญในโคนันบ่อยๆ

[แก้] จุดเริ่มต้นการเป็นนักเขียนการ์ตูน
เรียนจบก็เป็นครูสอนศิลปะก่อนแต่เคยได้ร่วมงานกับ อาจารย์ อาเบะ ยูตากะ มาก่อนในสมัยเรียน ประสบการณ์ในครั้งนั้นมีผลกับผลงานของโกโชมากขนาดในโคนันมีการกล่าวถึงอาเบะ ยูตากะในโคนัน(เล่มแรกๆ)
ในปี1986 โกโชได้รับรางวัลนักเขียนหน้าใหม่จากการประกวดของโชกักกุกังครั้งที่19 จากผลงาน “รอหน่อยน่ะ(Chotto Matte)” เรื่องนี้ได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสารโชนเน็น ซันเดย์และเป็นการเปิดตัวของโกโช อาโอยาม่า

หนังสือการ์ตูนไยบะ เป็น1ในผลงานที่โด่งดังมีทังหมด 24 เล่มจบ

[แก้] ผลงาน
รอหน่อยนะ (Chotto Matte) ปีที่ตีพิมพ์: 1987
ซานตาครอสฤดูร้อน (Natsu no SANTACLAUS) ปีที่ตีพิมพ์: 1987
จอมโจรอัจฉริยะ (Magic Kaito) ปีที่ตีพิมพ์ : 1987
ผีเสื้อแดง (Samayoern Akai Shoushou) ปีที่ตีพิมพ์: 1988
ภารกิจแบบมินิของนักสืบจอร์จ (Tantei George no MINIMINI Daisakuen) ปีที่ตีพิมพ์: 1988
Play it again ปีที่พิมพ์: 1988
เอกซคาลิเบอร์ (Ekusukaribaa) ปีที่พิมพ์: 1988
ไยบะ (Yaiba) ปีที่พิมพ์: 1988
ไม้สี่จอมหวด (4-Ban Third) ปีที่พิมพ์: 1991
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน (Meitantei Conan) ปีที่พิมพ์: 1994
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ภาคพิเศษ (เรื่อง: โกโช อาโอยาม่า, ภาพ: เออิจิ ยามากิชิ)
หุ่นนักรบสู้จ้าวจักรวาล บาคุไรก้า (โกโช อาโอยาม่า และ เออิจิ ยามากิชิ)
คู่มือยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ร้อยเปอร์เซ็นต์
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ฉบับแฟนพันธุ์แท้
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ตอนยุทธการเหนือห้วงทะเลลึก
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ตอนบทเพลงมรณะแด่เหล่านักสืบ
Tell Me A Lie (Watashi ni Uso o Tsuite) ปีที่พิมพ์: (2007 ?)

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เป็นการเปลี่ยนแนวการ์ตูนที่สุดอย่างหนึ่ง
ของกินที่เกลียด: ลูกเกด
พี่น้อง: เป็นผู้ชาย 4 คน คนที่1 เป็นช่างเทคนิคในโรงไฟฟ้า, คนที่2 โกโช อาโอยาม่า, คนที่3 รับช่วงต่อกิจการอู่ซ่อมรถ, คนที่ 4 เป็นหมอ
คุณพ่อคุณแม่: ทั้งคู่เกลียดการ์ตูนมากๆ ถ้าเห็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับการ์ตูนจะทำลายหมด (ตอนนี้คงเปิดใจบ้างแล้ว)
วัยเด็ก: โกโช อาโอยาม่า ชอบเล่นเป็นนักสืบและมีกลุ่มเพื่อนที่เล่นที่เล่นเป็นนักสืบด้วยกัน ช่วยกันคิดทริกต่างๆ มากมาย เวลาไปร้านหนังสือก็จะกวาดสายตาหาคำว่า “โฮมส์” หรือไม่ก็ “ยอดนักสืบ” อยู่เสมอ และเริ่มชื่นชอบเกี่ยวกับนักสืบมากขึ้นก็เมื่ออ่าน เชอล็อค โฮมส์ ตอนงานวิจัยสีเลือด (A Study in Scarlet) ซึ่งเป็นตอนแรกของโฮมส์ เคยชนะการประกวดภาพตอน ป.1 ชื่อภาพ “Yukiai War” ได้โชว์ที่ห้างสรรพสินค้า Tottori Daimaru
การศึกษา: โรงเรียนมัธยมปลายในยูระ, มหาวิทยลัยนิปปอน คณะศิลปกรรมศาสตร์

หน้าปกจอมโจรคิด เป็นการ์ตูนรับเชิญในโคนันบ่อยๆ

[แก้] จุดเริ่มต้นการเป็นนักเขียนการ์ตูน
เรียนจบก็เป็นครูสอนศิลปะก่อนแต่เคยได้ร่วมงานกับ อาจารย์ อาเบะ ยูตากะ มาก่อนในสมัยเรียน ประสบการณ์ในครั้งนั้นมีผลกับผลงานของโกโชมากขนาดในโคนันมีการกล่าวถึงอาเบะ ยูตากะในโคนัน(เล่มแรกๆ)
ในปี1986 โกโชได้รับรางวัลนักเขียนหน้าใหม่จากการประกวดของโชกักกุกังครั้งที่19 จากผลงาน “รอหน่อยน่ะ(Chotto Matte)” เรื่องนี้ได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสารโชนเน็น ซันเดย์และเป็นการเปิดตัวของโกโช อาโอยาม่า

หนังสือการ์ตูนไยบะ เป็น1ในผลงานที่โด่งดังมีทังหมด 24 เล่มจบ

[แก้] ผลงาน
รอหน่อยนะ (Chotto Matte) ปีที่ตีพิมพ์: 1987
ซานตาครอสฤดูร้อน (Natsu no SANTACLAUS) ปีที่ตีพิมพ์: 1987
จอมโจรอัจฉริยะ (Magic Kaito) ปีที่ตีพิมพ์ : 1987
ผีเสื้อแดง (Samayoern Akai Shoushou) ปีที่ตีพิมพ์: 1988
ภารกิจแบบมินิของนักสืบจอร์จ (Tantei George no MINIMINI Daisakuen) ปีที่ตีพิมพ์: 1988
Play it again ปีที่พิมพ์: 1988
เอกซคาลิเบอร์ (Ekusukaribaa) ปีที่พิมพ์: 1988
ไยบะ (Yaiba) ปีที่พิมพ์: 1988
ไม้สี่จอมหวด (4-Ban Third) ปีที่พิมพ์: 1991
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน (Meitantei Conan) ปีที่พิมพ์: 1994
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ภาคพิเศษ (เรื่อง: โกโช อาโอยาม่า, ภาพ: เออิจิ ยามากิชิ)
หุ่นนักรบสู้จ้าวจักรวาล บาคุไรก้า (โกโช อาโอยาม่า และ เออิจิ ยามากิชิ)
คู่มือยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ร้อยเปอร์เซ็นต์
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ฉบับแฟนพันธุ์แท้
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ตอนยุทธการเหนือห้วงทะเลลึก
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ตอนบทเพลงมรณะแด่เหล่านักสืบ
Tell Me A Lie (Watashi ni Uso o Tsuite) ปีที่พิมพ์: (2007 ?)

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เป็นการเปลี่ยนแนวการ์ตูนที่สุดอย่างหนึ่ง

ป้ายกำกับ:

ยอดนักสืบจิ้วโคนัน

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน
เจ้าหนูโคนันยอดนักสืบ
ชื่อไทย
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน
ชื่อญี่ปุ่น
名探偵コナンเมตันเตโคนัน
ชื่ออังกฤษ
Case Closedเคสโคลซด์ (ในสหรัฐอเมริกา)Detective Conanดีเทคทิฟโคนัน (ในประเทศอื่น)
ผู้แต่ง
อาโอยาม่า โกโช
แนวการ์ตูน
สืบสวน
เว็บไซต์
websunday.net/conan
ลิขสิทธิ์
ลิขสิทธิ์ในญี่ปุ่น
โชกาคุคัง
ลิขสิทธิ์ในไทย
วิบูลย์กิจ
จำนวนเล่ม
58 (ยังไม่จบ)53 (แปลไทย)
ส่วนหนึ่งของ สารานุกรมการ์ตูนญี่ปุ่น
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน (อังกฤษ: Detective Conan, Case Closed) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นแนวสืบสวน เขียนโดย โกโช อาโอยาม่า โคนันได้ถูกตีพิมพ์ในหลายภาษา นอกจากภาษาญี่ปุ่นต้นฉบับแล้ว ยังมีภาษาจีน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, ไทย ฯลฯ นอกจากนี้ยังได้มีการนำมาทำเป็นภาพยนตร์หลายครั้งด้วยกัน
เนื้อหา[ซ่อน]
1 เรื่องย่อ
2 ตัวละคร
3 ในประเทศไทย
4 ชื่อเหล้ากับองค์กรชุดดำ
5 ยา APTX 4869
6 4869 กับ เชอร์ล็อก โฮมส์ (Sherlock Holmes)
7 เว็บไซต์ผู้ติดตามผลงาน
//

[แก้] เรื่องย่อ
ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้ มีการกล่าวถึง เนื้อเรื่อง หรือฉากจบ
คุโด้ ชินอิจิ นักสืบมัธยมปลายวัย 17 ปี ไปเที่ยวสวนสนุก Tropical Land กับเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กชื่อ โมริ รัน ระหว่างนั้นได้เกิดคดีฆาตกรรมขึ้นบนรถไฟเหาะ ชินอิจิซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุสามารถคลี่คลายคดีได้สำเร็จ แต่เขาเกิดสงสัยในตัวชายชุดดำ 2 คนซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุเช่นกัน จึงแอบสะกดรอยตามไปและได้เห็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย (วอดก้า) กำลังแบล็คเมล์ผู้ลักลอบค้าปืนเถื่อน ชินอิจิที่แอบมองอยู่ไม่ทันระวังตัว จึงถูกชายชุดดำอีกคน (ยีน) ใช้ของแข็งตีที่ศีรษะทำให้ชินอิจิสลบไป ชายชุดดำทั้งสองได้กรอกยาพิษ Apotoxin-4869 (aptx4869) ซึ่งอยู่ในขั้นทดลองให้ชินอิจิกิน โดยหวังจะให้เขาเสียชีวิตโดยไม่เหลือร่องรอยของยาพิษในศพ แล้วจากไป แต่ยาดังกล่าวกลับมีผลทำให้ร่างกายหดเล็กลงเป็นเด็ก

ชินอิจิในร่างเด็ก
เมื่อชินอิจิตื่นขึ้นมา ร่างของเขาก็เล็กลงเท่ากับเด็กอายุ 7 ขวบ เขารีบวิ่งไปหาเพื่อนบ้าน ดร. อากาสะ เพื่อบอกเรื่องที่เกิดขึ้น ดร. จึงช่วยหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ ระหว่างนั้นเอง รันก็มาที่บ้าน ดร. เพื่อถามหาชินอิจิ ชินอิจิที่ร่างเล็กอยู่นั้นไม่ต้องการให้รันรู้ถึงเรื่องที่เกิดกับตน จึงรีบคว้าแว่นตาสำรองของคุโด้ ยูซากุผู้เป็นพ่อ ซึ่งวางอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานมาสวม พอรันถามว่าชื่ออะไร ชินอิจิชำเลืองไปเห็นหนังสือของ เซอร์อาเทอร์ โคนัน ดอยล์ และเอโดงาวะ รัมโป บนชั้นหนังสือของ ดร. เขาจึงบอกไปว่าตนชื่อ เอโดงาวะ โคนัน เป็นญาติของ ดร. อากาสะ พ่อแม่อยู่ต่างประเทศ ดร. แนะนำให้โคนันไปอยู่ที่บ้านของรันกับพ่อของเธอที่ประกอบอาชีพเป็นนักสืบเอกชน ชื่อ โมริ โคโกโร่ ซึ่งเป็นนักสืบที่ไม่ได้เรื่อง เพื่อจะสามารถติดตามข่าวของพวกชายชุดดำได้ หลังจากที่โคนันไปอยู่ที่บ้านของรันไม่นาน เมื่อเกิดคดีต่าง ๆ ขึ้น โคนันก็จะช่วยคลี่คลายคดีแทน โมริ โคโกโร่ โดยใช้ปืนยาสลบรูปนาฬิกาทำให้หลับ แล้วใช้เครื่องเปลี่ยนเสียงรูปหูกระต่ายเปลี่ยนเสียงพูดแทนโคโกโร่ ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ ดร. เป็นคนประดิษฐ์ขึ้นทั้งสิ้น การคลี่คลายคดีของโคนัน ทำให้โคโกโร่กลายเป็นนักสืบที่โด่งดัง จนได้มีชื่อว่า โคโกโร่นิทรา หลังจากนั้นคดีมากมายก็เข้ามาหาโคโกโร่เพื่อให้โคนันได้คลี่คลาย ในขณะเดียวกัน โคนันก็พยายามที่จะตามหาชายชุดดำเพื่อที่จะคืนร่างเป็นชินอิจิคนเดิมให้ได้

[แก้] ตัวละคร
ดูตัวละครทั้งหมดที่ ตัวละคร ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน

[แก้] ในประเทศไทย
ปัจจุบันในประเทศไทย โคนัน ได้ถูกจัดพิมพ์ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ ตีพิมพ์แล้ว 53 เล่ม (กันยายน 2550)และฉบับ ภาพยนตร์การ์ตูน โดย TIGA จัดทำในรูปแบบของ VCD และ DVD โดยมี โคนัน เดอะซีรี่ย์(อนึ่ง ก่อนหน้านี้บริษัท วีดิโอสแควร์ เป็นผู้ถือครองลิขสิทธิ์)
โคนัน เดอะซีรี่ส์ 1 ตอนที่ 1-44
โคนัน เดอะซีรี่ส์ 2 ตอนที่ 45-88
ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน ภาค 1-5
โคนันแอดเวนเจอร์ ภาค 1-2
โคนัน เดอะ มูฟวี่ทั้งหมด 10 ตอน (ส่วนตอนที่ 11 คาดการณ์ว่าจะฉายในประเทศไทยประมาณเดือน ธันวาคม 2550) ดังนี้
The Time Bomb Skyscraper (คดีปริศนาระเบิดระฟ้า)
The Fourteenth Target (คดีฆาตกรรมไพ่ปริศนา)
The Last Wizard of the Century (ปริศนาพ่อมดคนสุดท้ายแห่งศตวรรษ)
Captured in Her Eyes (คดีฆาตกรรมนัยน์ตามรณะ)
Countdown to Heaven (คดีปริศนาเส้นตายสู่สวรรค์)
The Phantom of Baker Street (ปริศนาบนถนนสายมรณะ)
Crossroad in the Ancient Capital (คดีฆาตกรรมแห่งเมืองปริศนา)
Magician of the Silver Sky (มนตราแห่งรัตติกาลสีเงิน)
Strategy Above the Depths (ยุทธการเหนือห้วงทะเลลึก)
The Private Eyes' Requiem (บทเพลงมรณะแด่เหล่านักสืบ)
Jolly Roger in the Deep Azure (???)
และได้มีการออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ในรายการโมเดิร์นไนน์ การ์ตูน ดังนี้
ตอนที่1-44 พ.ศ. 2542
ตอนที่45-96 31 สิงหาคม พ.ศ. 2545 - 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 เวลา 10.00-10.30 น.
6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 - ปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2548 เวลา 9.00-9.30 น.
30 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 - 27 มกราคม พ.ศ. 2550 เวลา 9.00-9.30 น.
5 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 - ปัจจุบัน เวลา 9.30-10.00 น.

[แก้] ชื่อเหล้ากับองค์กรชุดดำ

บทความนี้ต้องการตรวจสอบความถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญหากคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือมีความรู้เกี่ยวกับบทความนี้ สามารถช่วยปรับปรุงเนื้อหาได้โดยการกด แก้ไข ด้านบนดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การจัดย่อหน้า คู่มือการเขียน การอ้างอิง และ นโยบายวิกิพีเดีย

บทความนี้ได้รับแจ้งว่า การใช้ภาษา การแปลภาษา การทับศัพท์ การสะกดคำ หรือต้องการเรียบเรียงใหม่ ให้ดีขึ้นได้ ซึ่งอาจรวมถึงรูปแบบการเขียนที่อาจไม่ใช่สารานุกรมคุณสามารถช่วยแก้ไขได้ โดยการเปลี่ยนภาษาให้สละสลวย และแก้ไขตัวสะกดให้ถูกต้องดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คู่มือ และ นโยบายวิกิพีเดีย
เหล่าชายชุดดำได้ใช้โค้ดเนมแทนชื่อจริงของตัวเองไว้ด้วยชื่อเหล้า ซึ่งเหล้าเหล่านี้ก็คือ
จิน(หรือยีน ตามในหนังสือการ์ตูน) (Gin) จิน เป็นเหล้าสีขาว มีกลิ่นหอมของผลจูนิเปอร์ ทำมาจากการกลั่นข้าวและผสมกลิ่นรสชาติของสมุนไพร และผลจูนิเปอร์ เป็นที่นิยมกันมากในฮอลันดา ปัจจุบันผลิตกันในหลายๆประเทศ กลิ่นและรสชาติก็แตกต่างกันไป เพราะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งวิธีการผลิตและส่วนผสม จินที่ผลิตจากประเทศฮอลันดา รสจะเข้มข้นมาก นิยมดื่มโดยไม่ผสม แต่ควรแช่ให้เย็นจัด จินจากอังกฤษและอเมริกา นิยมดื่มเป็นเครื่องดื่มผสม
วอดก้า (Vodka) วอดก้า เป็นเหล้าสีขาวใส มีกลิ่นเพียงเล็กน้อยจนแทบไม่รู้สึก ดีกรี 40-50 ต้นกำเนิดอยู่ในรัสเซียและโปรแลนด์ สมัยก่อนไม่เป็นที่รู้จัก แต่ในปัจจุบันเป็นเหล้าที่นิยมกันมากครับ เป็นเหล้าที่หมักจากข้าวไรย์หรือมันฝรั่งหรือข้าวโพด ผ่านการกรองและดูดกลิ่นจนเหลือสีเจือปนและกลิ่นน้อยที่สุด คำโฆษณาที่ว่า " It will leave you breathless " คือเมื่อดื่มวอดก้าแล้วจะไม่มีกลิ่นติดค้างเมื่อหายใจ
ตากีล่า (Tequila) ตากีลา เป็นเหล้าสีขาว กลิ่นแรง หมักจากพืชที่เรียกว่า Mezcal ผลิตในประเทศเม็กซิโก ปกติตากีลาจะมีสีขาว แต่บางชนิดมีสีเหลืองทองจากการเก็บบ่มในถังไม้ ปกติชาวพื้นเมืองเม็กซิโก นิยมดื่มเหล้าตากีลาโดยไม่ผสม หากแต่ก่อนดื่มจะหยิบเกลือใส่ปาก บีบมะนาวตาม แล้วจึงยกเหล้า ขึ้นดื่ม เพื่อให้รสชาติของเหล้าคลุกเคล้ากับเกลือและมะนาวในปาก ในปัจจุบันนิยมนำตากีลามาทำเครื่องดื่มผสม
เบลม็อธ หรือ เวอร์มุธ (Vermouth) เป็นเหล้ายาทำจากรากไม้ รากยา และเครื่องเทศ รสชาติคล้ายๆยาบำรุงเลือดลมของไทย,เหล้าองุ่นเจือกลิ่นสำหรับจิบภายหลังอาหาร ชื่อ เบลม็อธ ได้มาจากการที่สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจเจ้าของลิขสิทธิ์ แปลคำว่า เวอร์มุธ ที่ถูกทับศัพท์มาจากภาษาญี่ปุ่น (berumotsu)
เชอร์รี (บรั่นดี,Cherry) เหล้าบรั่นดีแช่ลูกเชอร์รี่
คาลวาโดส (Calvados) คือเหล้าบรั่นดีกลั่นจากแอ็ปเปิ้ล มาจากฝรั่งเศสทางนอร์มันดีตอนใต้ (from the French région of Lower Normandy.
เคียนติ (Chainti) ไวท์เคียนติเป็นไวน์อิตาลี เกรดสูงสุด... ใช้องุ่น โจเวเซกับคาไนโอโล.. หอมพลัม เชอร์รี่ แล้วก็แบล็กเบอร์รี่.. วินเทจนุ่มเนียน
ปิสโก (Pisco) ปิสโกบรั่นดีกลั่นจากองุ่น โดยผู้ผลิตของเปรูและชิลีู (หาเพิ่มเติมใน Pisco ภาษาอังกฤษ)

[แก้] ยา APTX 4869
APTX 4869 หรือ Apoptoxin 4869 เป็นยาที่องค์กรชุดดำและมิยาโนะ ชิโฮ(ไฮบาระ ไอ)คิดค้นขึ้นมา Apoptoxin คือสารที่ทำให้เกิดการ Apoptosis หมายถึง โปรแกรมฆ่าเซลล์ หรือหมายความว่า เซลล์จะถูกป้อนข้อมูลให้ทำลายตัวเอง และคงอยู่ตามซิกแนลที่ควบคุมมันไว้
ตอนที่ยายังอยู่ในขั้นทดลองนั้น มีบุคคลในองค์กรตั้งชื่อให้อีกอย่าง โดยเอาซีเรียลนัมเบอร์ 4869 มาอ่านใหม่ว่าชารอกุ ก็คือเชอร์ล็อก "ยอดนักสืบผู้ล้มเหลว"

[แก้] 4869 กับ เชอร์ล็อก โฮมส์ (Sherlock Holmes)
4869 เป็นตัวเลขของโฮมส์ในเรื่องโคนัน สัมพันธ์กันเพราะเมื่ออ่านเลข 4869 ที่มาจากการพ้องเสียงของการอ่านตัวเลขในภาษาญี่ปุ่น シャーロック(Shi a -Roku) ดังนี้ 4 シ(Shi), 8 ハチ(Hachi), 6 ロック(Roku) และ 9 キュ(kyu) (สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่น สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่[[1]]

[แก้] เว็บไซต์ผู้ติดตามผลงาน
Detective Conan Fanclubเว็บคลับที่รวบรวมข้อมูลและข่าวอัปเดตการ์ตูนยอดนักสืบจิ๋วโคนัน (ไทย)

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เป็นบทความเกี่ยวกับ การ์ตูน ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้นข้อมูลเกี่ยวกับ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ
ดึงข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%9A%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%99".
หมวดหมู่: ตรวจแก้โดยผู้เชี่ยวชาญ ตรวจภาษา ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน การ์ตูนญี่ปุ่นแนวโชเน็น บทความเกี่ยวกับ การ์ตูน ที่ยังไม่สมบูรณ์

ป้ายกำกับ: